ศรีสะเกษ คณะกรรมการวัดบ้านด่านเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา มหาวชิราลงกรณและเฉลิมฉลองหลวงพ่อทองมาประดิษฐานที่วัดบ้านด่าน ครบ 70 ปี
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 ที่วิหารหลวงพ่อทอง วัดบ้านด่าน ตำบลสร้างปี่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ พระครูวิจิตรกาญจนเขต เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านและเจ้าคณะตำบลสร้างปี่ นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษและนายกพุทธสมาคมจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการวัดบ้านด่าน เพื่อจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา มหาวชิราลงกรณ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครบ 90 พรรษา และเฉลิมฉลองหลวงพ่อทองมาประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านด่านครบ 70 ปี
โดยมีนายนพดล เมืองประทุม ผู้อำนวยการโรงเรียนจินดาวิทยาคาร 2 นายธนกฤต เกตุไชยเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม คณะครูจากสังคมโรงเรียนค้อวังวิทยาคม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร โรงเรียนส้มป่อยพิทยาเสริม โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม โรงเรียนจินดาวิทยาคาร 2 บ้านหนองศาลา ผู้นำชุมชน และปราชญ์ ชาวบ้าน ร่วมประชุมในวันนี้ ซึ่งพระครูวิจิตรกาญจนเขต เจ้าคณะตำบลสร้างปี่ แจ้งว่า กรมศิลปากรยืนยันว่าหลวงพ่อทองเป็นศิลปะสมัยอยุธยา ตรงกับพ่อใหญ่พร ศิริพัฒน์ พ่อใหญ่เฮ้า ปัทมะ พ่อใหญ่สุวิทย์ชาติ ทิพศร และพ่อก้อน วันศุกร์ ปราชญ์ของชุมชน ว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และแสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่หลายครั้งด้วยกัน ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นปีที่นักแสวงโชคออกหาพระพุทธรูปเพื่อนำไปขายหรือส่งออกต่างประเทศตามความต้องการของตลาด ก็ได้มีนักแสวงโชคมาแอบขโมยหลวงพ่อทอง ใช้คนหาม 4 คน มุ่งหน้าไปทางบ้านหอยโนนดู่ อำเภอยางชุมน้อย เดินทางทั้งคืนได้ประมาณ 2 กิโลเมตร จึงนำหลวงพ่อทองไปซ่อนไว้ในจอมปลวก วันต่อมาไปจ้างวานเกวียนของบ้านเห็ดผึ้งหนองก่ามมาขน เดินทางไปได้ระยะหนึ่งเกวียนก็หัก และนำพระพุทธรูปไปทิ้งลงในบ่อน้ำ และชาวบ้านตามหาจนพบจึงจะนำกลับบ้านด่าน ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2518 ได้มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกลับมาขโมยหลวงพ่อทอง บรรทุกใส่รถจี๊ป นำไปถึงอำเภอราษีไศล และนำไปเก็บไว้ที่บริเวณบ้านของตนเอง แต่เกิดอาการวิตกจริต จึงได้นำไปซ่อนไว้ที่ป่าละเมาะหาดทรายแม่น้ำมูลใกล้วัดกลาง ชาวบ้านไปค้นหาจนพบและนำไปไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอราศีไศล และนำไปเก็บไว้ที่ศาลากลางศรีสะเกษ เมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นหลวงพ่อทองวัดบ้านด่าน จึงนำกลับมาที่วัดบ้านด่าน และสร้างกรงใส่หลวงพ่อทองไว้เพื่อป้องกันการขโมยต่อไป
นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษ กล่าว่า นายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง คหบดีลูกหลานชาวบ้านด่าน ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีความเชื่อส่วนบุคคลว่า เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปสอบเรียนต่อกรุงเทพสอบไม่ได้ จึงไปขอพรจากหลวงพ่อทอง ขอให้สอบได้ ปรากฏว่าสอบได้ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร นำความปลื้มปิติยินดีมาสู่ญาติมิตรเป็นจำนวนมาก หลังจากประกอบสัมมาชีพที่กรุงเทพฯได้กลับมาบ้าน และไปขอพรจากหลวงพ่อทองโดยได้อธิษฐานว่าถ้าประกอบอาชีพเจริญก้าวหน้ามีอยู่มีกินจะมาอุปถัมภ์สร้างวิหาร เพื่อนำหลวงพ่อทองออกจากกรงขัง ปรากฏว่า เกิดผลสำเร็จดังที่กล่าว จึงได้สร้างวิหารหลวงพ่อทอง กว้าง 15 เมตร ยาว 39 เมตร ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบประมาณแล้วจำนวน 18 ล้านบาทเศษ และในปีนี้เป็นปีมหามงคล คณะกรรมการจึงได้สร้างซุ้มประตูวัดบ้านด่าน กำหนดวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 7 สิงหาคม 2565 เวลา 10.30 น. โดยได้เชิญ พลเอก สันติพงษ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการกองทัพบก เลขาธิการ กอ.รมน. มาเป็นประธานอย่างเป็นทางการ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียงทุกหมู่เหล่า ร่วมกิจกรรมงานเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา มหาวชิราลงกรณ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงครบ 90 พรรษา และเฉลิมฉลองหลวงพ่อทองมาประดิษฐานที่วัดบ้านด่าน ครบ 70 ปี ด้วย
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ จ.ศรีสะเกษ