“ครูแดน” พร้อมครอบครัวเข้าขอบคุณ ผบ.ตร. หลังสั่ง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยเหลือกลับไทยอย่างปลอดภัย
1 min readจากกรณีที่มี นางคำ โมริพันธ์ มารดาของนายระม้าย โมริพันธ์ หรือครูแดน อายุ 40 ปี ครูสอนศิลปะ
การต่อสู้ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้การช่วยเหลือในการนำตัวครูแดน กลับมายังประเทศไทย
โดยแจ้งว่าครูแดนถูกกองกำลังว้าแดงจับตัวเรียกค่าไถ่จำนวน 24 ล้านบาท ตามที่ปรากฏในข่าวและสื่อต่างๆ รายละเอียดตามที่ทราบแล้วนั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ประสานความร่วมมือ ผ่านผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ ประจำประเทศเมียนมาร์ ร่วมกับทางการทหารของไทยและเมียนมาร์ ตรวจสอบจนทราบว่า
นายระม้าย ฯ ถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังของว้าแดงอยู่จริง และให้เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือนายระม้ายฯ ให้เดินทางกลับมายังประเทศไทยอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด ต่อมา เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (Township Border Committee : TBC) แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ได้รับตัวนายระม้ายฯ จากกองกำลังทหารประเทศเมียนมาร์ และส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ภ.จว.เชียงราย เพื่อให้ความช่วยเหลือ สอบสวนปากคำ ตรวจสภาพร่างกาย ซึ่งนายระม้ายฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทีมสหวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ พบว่า นายระม้ายฯ มิได้เป็นผู้เสียหายหรือเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์
จากการซักถามเบื้องต้น นายระม้ายฯ ได้ให้การว่า เมื่อประมาณเดือน ม.ค.64 ตนได้เดินทางข้ามไปยัง ฝั่งประเทศเมียนมาร์ที่เมืองท่าขี้เหล็ก เพื่อหานายทุนที่จะช่วยสนับสนุนเงินในการทำภาพยนตร์ โดยได้ใช้วิธีการ ข้ามชายแดนผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ต่อมาได้ถูกทางเจ้าหน้าที่กองกำลังว้าแดงพบตัวและทราบว่าตนเองข้ามแดนไปโดยผิดกฎหมาย จึงได้ถูกควบคุมตัวไว้ โดยที่ตนพยายามหาทางติดต่อกับญาติที่ประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการของไทย ก่อนที่จะได้มีการประสานความร่วมมือกับประเทศเมียนมาร์เพื่อให้การช่วยเหลือจนตนสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้สำเร็จ โดยมิได้ถูกลักพาตัวหรือมีการเรียกค่าไถ่ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
จากข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.เชียงราย จึงได้ดำเนินคดีกับนายระม้ายฯ จากกรณีการข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยกล่าวหาว่า
ไม่เดินทางออกไปตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ระวางโทษ ปรับไม่เกินสองพันบาท
ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ประกอบข้อ 15 เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน สองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดเชียงราย ที่ 1367/2563 ลง 20 มีนาคม 2563 เรื่อง การระงับการเดินทางเข้าออกของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่อนแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้า และช่องทางอื่น ๆ ตลอดแนวชายแดนจังหวัดเชียงราย ระวางโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยนายระม้ายฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.65) เวลาประมาณ 11.00 น. นายระม้าย พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าขอบคุณ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ได้ช่วยเหลือตน จนสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้สำเร็จ