“บิ๊กโจ๊ก” นำกำลังยึดทรัพย์ผู้ต้องหา คดีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ 9 จังหวัด เกือบ 700 ล้านบาท
1 min readพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นำกำลังเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ต้องหา คดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ ในพื้นที่ 9 จังหวัด 74 จุด เกือบ 700 ล้านบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่เป็นสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และคดีนี้ยังมีความสลับซับซ้อน แม้มีเจ้าหน้าที่หลายคนถูกพบว่ากระทำผิด แต่ยังสามารถทำงานในสหกรณ์ได้ ซึ่งอาจทำให้พยานหลักฐานต่างๆ สูญหายหรือถูกแก้ไขไปอีก ความเสียหายโดยรวมมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท นั้น
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งสืบสวนและสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 293/2565 ลงวันที่ 22 มิ.ย.65 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว มีอำนาจในการสืบสวนคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุง จำกัด เพื่อเร่งคลี่คลายคดีและติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายกลับคืนให้กลุ่มผู้เสียหาย
จากการสืบสวนพบว่า ในช่วงปี พ.ศ.2563 หลังจากที่ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการสหกรณ์และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ รวมทั้งได้มีการตรวจสอบการดำเนินการทางบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ผลปรากฏว่า มีการพบความผิดปกติทางบัญชี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริตของคณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกรวมหลายราย จึงได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจากการสอบสวนพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏพบกลุ่มผู้ต้องหา ประกอบไปด้วยคณะกรรมการดำเนินการ ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด และบุคคลภายนอก จำนวน 25 คน มีพฤติการณ์ในการร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ และลงมือกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระต่างกัน เป็นเวลาต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 จนถึงปี พ.ศ.2563 โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดมากกว่า 10 วิธี เช่น การตกแต่งบัญชีของสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก การตกแต่งบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ที่ไม่มีตัวตน หรือตกแต่งบัญชีเกินความเป็นจริง การปลอมใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,577,836,978.14 บาท
ต่อมา ใหห้วงระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 25 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ประกอบด้วย
1. นางสาวสุภา สุวรรณเดชากุล อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาที่ 1
2. นางสุพร ชัยเพชร อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาที่ 2
3. นางสุชาดา ไสยสุวรรณ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาที่ 3
4. นางสาวจุฑารัตน์ เมืองสง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ 4
5. นางสาวนันทิยา โชติพานิช อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาที่ 5
6. นางอัมพร ดำเรือง อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาที่ 6
7. นางพัชราภรณ์ ขุนชิต อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ 7
8. นางสาวสุกัญญา คำจัน อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่ 8
9. นางสาวปาณิศา กรดแก้ว อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 9
10.นางสาวสุวนันท์ ทองใหญ่ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่ 10
11.นางสาวกชกร บุญโยม อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ 11
12.นายไกรศิริ สินคุ่ย อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ 12
13.พ.ต.ท.วิเชียร นวลจันทร์อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 13
14.ร.ต.ต.พันธ์ชัย ชัยด้วงอายุ 55 ปี ผู้ต้องหาที่ 14
15.ด.ต.ชุณฐกฤตม์ ชุมวงค์อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาที่ 15
16.พ.ต.อ.ชำนาญ คงชู อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาที่ 16
17.ร.ต.ท.อรุชา ช่วยกิจ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาที่ 17
18.ร.ต.อ.ธนเวทย์ ปัตตังถาโต อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 18
19.ด.ต.วิชา ชูศรี อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาที่ 19
20.นางสารภี ชูศรี อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาที่ 20
21.นายศิรัฐโรจ ชูศรี อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 21
22.นางมณฑา ประภาวัต อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาที่ 22
23.นายวิเชียร ใหม่แก้ว อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 23
24.นางพรศรี ละงู อายุ 74 ปี ผู้ต้องหาที่ 24
25.นางสาวพัชรา ชุณลาหานาจอายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 25
โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีการเงินออกจากบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ไปยังเครือญาติใกล้ชิดของกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหา ในเขตพื้นที่ 9 จังหวัด จึงได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารและในวันนี้ (22 ส.ค.65) ได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญา เพื่อเข้าตรวจค้น 74 เป้าหมายในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, ตรัง, กระบี่, ประจวบคีรีขันธ์, จันทบุรี, ระยอง และกรุงเทพมหานคร โดยผลการตรวจค้น สรุปการดำเนินการ ดังนี้
อายัดบัญชีผู้ต้องหา รวมจำนวน 37 บัญชี เงินคงเหลือในบัญชี 4,369,867.76 บาท
ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดิน 28 หลังที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 28 หลังห้องชุด 6 ห้องที่ดินเปล่า(โฉนด) 13 แปลงที่ดินเปล่า (นส.3 ก.) 11 แปลงรีสอร์ต 1 แห่ง (หัวหิน)ตลาดสดนาโยง จ.ตรัง (6 ไร่)อายัดทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ (ผู้ต้องหา 6 ราย)
รถยนต์ 19 คัน รถจักรยานยนต์ 12 คัน และทรัพย์สินอื่นๆจำนวนหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัด ทั้งหมด 694,441,500 บาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุงนี้ เป็นคดีที่สร้างความเสียหายให้กับสมาชิกสหกรณ์ในวงกว้างและมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก หลังจากที่ได้รับการร้องขอความเป็นธรรมก็ได้มีการเร่งรัดการดำเนินการเรื่อยมา จนสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 25 รายได้ก่อนหน้านี้ จากนั้นได้สั่งการให้มีการสืบหาทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อจะดำเนินการเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 9 จังหวัดในวันนี้ และเข้าตรวจค้นอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาให้ได้มากที่สุด เพื่อจะนำมาช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายของผู้ที่ได้รับผลกระทบในคดีนี้ ให้ได้รับความเป็นธรรมจนถึงที่สุด