“บิ๊กโจ๊ก” นำทีมตำรวจภูธรภาค8 แถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาวุธปืนและยาเสพติดกว่า 400 จุด ได้อาวุธปืนเพียบ
1 min read
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชยเอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รองผบช.ทท. ร่วมแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาวุธปืนและยาเสพติดกว่า 400 จุดในพื้นที่ตำรวจภุธรภาค 8 โดยมีพล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดพังงาพร้อมด้วยผบก. ผู้แทนผบก.จาก8จังหวัดภาคใต้ตอนบนร่วมให้กานต้อนรับและรายงานผลปฏิบัติการ และนำของกลางอาวุธปืนที่จับกุมได้ในแต่ละพื้นที่มาจัดแสดง พร้อมกับมีการสาธิตการเก็บ DNA และการเก็บปลอกและหัวกระสุนอาวุธปืนจากผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดพังงา
สืบเนื่องจาก ในปี 2565 ที่ผ่านมากว่า 8 เดือนแล้วนั้น ในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค8 มีเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่คนร้ายมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นเหตุที่ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาค 8 เกิดความกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตน และมีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลดลง จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องมีแผนในการป้องกันอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ดำเนินการเพิ่มมาตรการในการลดปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาค8 เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากยิ่งขึ้น มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเร่งด่วนจึงได้มีการวางแผนในการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อลดเหตุอาชญากรรม ผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน ยาเสพติด วัตถุระเบิด ค้าประเวณี โจรกรรมรถ โดยให้ทุกหน่วยในสังกัดตำรวจภูธรภาค8 รวบรวมพยานหลักฐานในการขออนุมัติหมายค้นต่อศาลเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายทั้งห้องเช่า เกสต์เฮ้าส์ บ้านพัก รีสอร์ท แหล่งมั่วสุมอาชญากรรมทุกรูปแบบ ในระหว่างวันที่22 – 26 ส.ค.๖๕ โดยมีจุดเข้าตรวจค้นรวมกว่า 400 เป้าหมายในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย ภ.จว.กระบี่ จำนวน 68 เป้าหมาย ภ.จว.ชุมพร จำนวน 52 เป้าหมาย ภ.จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 71 เป้าหมาย ภ.จว. พังงา จำนวน 50 เป้าหมายภ.จว.ภูเก็ต จำนวน 49 เป้าหมาย ภ.จว.ระนอง จำนวน 43 เป้าหมาย และภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 82 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจเก็บ DNA บุคคลตามจุดที่เข้าค้นจำนวน382 ราย จับกุมอาวุธปืน 85 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 859 นัด ผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติด 270 ราย ยึดยาบ้า 69,182 เม็ด และยาไอซ์ 1,083.29 กรัม จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าได้ 54 ราย โดยจังหวัดที่มีการจับกุมอาวุธปืนมากที่สุดคือ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 22 กระบอก ตามมาด้วย ภ.จว.กระบี่และพังงา หน่วยละ14 กระบอก
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค8 เป็นนโยบายที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมามีการระดมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค8 อย่างจริงจังมาโดยตลอด รวมเป้าหมายตรวจค้นมากกว่า 2,000 จุด จับกุมอาวุธปืนรวมมากกว่า 300 กระบอก จับผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับอยู่ในพื้นที่ได้อีกกว่า 200 ราย ซึ่งผลจากการปิดล้อมตรวจค้นเหล่านี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า สามารถลดอาชญากรรมในภาพรวมลงไปได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งนโยบายนี้ก็จะยังคงปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานต่อไป เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นวิธีการในการป้องกันอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม
ภาพ/ข่าว อโนทัย งานดี จ.พังงา