รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอราษีไศล

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ไดัมอบหมายให้ นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอราษีไศล ซึ่งขณะนี้น้ำได้ท่วมเป็นบริเวณกว้างและปริมาณน้ำที่สะสมเอ่อล้นท่วมพื้นการเกษตรริมแม่น้ำมูลในพื้นที่นาข้าวตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2565 แล้ว โดยมีนายภานรินทร์ ภาณุพินทุ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง พร้อมด้วยปลัดอำเภอผู้แทนนายอำเภอราษีไศล ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษและเจ้าหน้ทที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ ปรากฏว่า บริเวณที่มีน้ำท่วม เป็นพื้นที่ป่าบุ่งป่าทามเป็นพื้นที่รับน้ำและที่สาธารณประโยชน์ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ป่าบุ่งป่าทามดังกล่าวและทำนาปรัง ซึ่งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างได้มีการแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้ทำนาปีในพื้นที่ป่าบุ่งป่าทามช่วงฤดูฝนน้ำท่วมนี้แล้ว

จากการลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบพื้นที่ได้พบชาวบ้านที่เคยทำนาปรังในพื้นที่ดังกล่าวว่า ชาวบ้านได้ชี้แจงว่า ตนทำนาปรังในช่วงฤดูแล้ง ส่วนในฤดูฝนไม่ได้ทำนาปี เนื่องจากบริเวณป่าบุ่งป่าทามแห่งนี้ จะมีน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนและปีนี้น้ำได้ท่วมมาประมาณ 1 เดือนแล้ว ในบริเวณป่าบุ่งป่าทาม ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าว เป็นพื้นที่ในตำบลหนองแค หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 10 และหมู่ที่ 12 ตำบลเมืองคง หมู่ที่ 15 และตำบลหนองอึ่ง หมู่ที่ 1 อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ

นายภานรินทร์ ภาณุพินทุ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง กล่าวว่า ตนเองและคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์น้ำ ณ เขื่อนราษีไศล ขณะนี้ระดับน้ำหน้าเขื่อนราษีไศลที่ 118.83 ม.(รทก.) ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนที่ 118.27 ม.(รทก.) มีบานประตูระบายทั้งหมด 7 บาน ได้เปิดทั้ง 7 บานแล้ว แยกเป็น 6 บาน ยกระดับที่ 3.50 เมตร และอีก1บานยกแขวนประตู ส่วนระดับการแจ้งเตือน เป็นธงสีเหลือง เนื่องจากแนวโน้มประมาณน้ำท้ายเขื่อนมีระดับเพิ่มสูงขึ้น จึงได้มีการแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เฝ้าระวังแล้วต่อไป

ข่าว /ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ จ.ศรีสะเกษ