สุรินทร์ ชาวบ้าน โวยสะพานไม่มีราวขอบกั้น เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แถมมืดสนิด วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข ก่อนมีใครตายเพิ่มอีก
1 min readสุรินทร์ -ชาวบ้าน โวยสะพานไม่มีราวขอบกั้น เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แถมมืดสนิด วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข ก่อนมีใครตายเพิ่มอีก
วันที่ 8 ก.ย.65 ชาวบ้าน ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) จ.สุรินทร์ ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ว่าสะพานบนถนนเส้นทางสายบ้านตะแบก ม.4 ต.ตรมไพร เชื่อมต่อบ้านพันษี ต.จารพัตร อ.ศีขรภูมิ ไม่มีราวสะพานกั้นข้างทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลด้วย ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างตำบลจารพัตและตำบลตรมไพร อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.สุรินทร์ โดยเฉพาะเวลากลางคืน ถนนมีความมืด ไม่มีแสงไฟ ประกอบกับต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นอยู่เต็มสองข้างถนน ที่ผ่านมาได้มีประชาชนที่สัญจรไปมา เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เดือนละหลายราย บางรายก็เสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งชาวบ้านไม่รู้จะร้องหน่วยงานใด เพราะถนนดังกล่าวเป็นถนนของอบจ.สุรินทร์ โดยเฉพาะก่อนที่จะถึงสะพานข้ามห้วยกุดไผท มีสะพานที่ก่อสร้างไม่มีคอสะพานและไม่มีราวกำแพงขอบกั้นสะพาน ทำให้รถยนต์และ จยย.ตกและเสียหลักได้รับบาดเจ็บ
บางรายถึงกับเสียชีวิต เพราะต่างไม่ทราบว่า บริเวณดังกล่าวมีสะพานและมืดมิด จนกระทั่งล่าสุดได้มีรถยนต์กระบะตกลงไปข้างทางเพราะสะพานดังกล่าวไม่ได้ติดป้ายบอกเตือนแต่อย่างใด อีกทั้งส่วนใหญ่คิดว่าบริเวณดังกล่าวมีไหล่ทาง แต่ทีไหนได้เป็นเพียงขอบสะพานโล่งๆ หากรถหลบหรือแอบข้างทางก็จะตกลงไปได้ทันที มีความอันตรายเป็นอย่างมาก
นายมาด กะรัมย์ อายุ 48 ปี ชาวบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.จารพัตร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ บอกว่าถนนเส้นทางดังกล่าวเวลากลางคืนจะมืดสนิทพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาจะมองไม่เห็นเพราะต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกข้างๆถนนทำให้มืดมิดที่ผ่านมาได้มีพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาได้ประสบอุบัติเหตุมาหลายครั้งหลายคราว บางรายถึงกับเสียชีวิตไปเลยก็มี จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยออกมาดำเนินการให้ชาวบ้านด้วย อยากจะได้ไฟแสงสว่างภายบนถนนเพื่อที่จะได้ส่องทางให้กับพี่น้องที่สัญจรไปมายามค่ำคืน ประกอบกับคอสะพานที่ไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนทำให้พี่น้องที่ขับรถสัญจรไปมาไม่ทราบว่ามีสะพานบางรายตกลงไปจมน้ำไปเลยก็มี ซึ่งเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมากจึงวิงวอนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้มาดูแลแก้ไขให้ชาวบ้านด้วย ก่อนที่จะมีคนเสียชีวิตไปมากกว่านี้อีก