อังคาร. พ.ย. 19th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

“บิ๊กโจ๊ก” จับ 3 ผู้ต้องหา หลอกเด็กสาววัย 16 ปี ค้ากามเมียนมา

1 min read


เมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 ที่ผ่านมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 16 ปี พร้อมผู้ปกครอง เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศพดส.ตร. (ดํารงตําแหน่งในขณะนั้น) กรณี น.ส.เอ ถูกหลอกลวงให้เดินทางไปยังประเทศเมียนมา และถูก บังคับให้ค้าประเวณี ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือและพากลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยในเวลาต่อมา โดย ขอให้สืบสวนติดตามและดําเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่หลอกลวง น.ส.เอ ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนําเสนอ ไปแล้ว นั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฯ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ,ศพดส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ สภ. กระสัง เร่งสืบสวน ติดตามคดีนี้อย่างเร่งด่วน โดยได้ประสานความร่วมมือไปยังกองกําลังทหารประเทศเมียนมา เพื่อช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว จนทราบว่าขบวนการดังกล่าวได้ร่วมกันกระทําความผิดโดยแบ่ง หน้าที่กันทํา เริ่มต้นจากการหลอกลวงเหยื่อให้มีความต้องการเดินทางไปทํางาน นําพาลักลอบข้ามแดนไปยัง ประเทศเมียนมา และถูกบังคับค้าประเวณีในที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ทําการสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทําผิด ทั้งหมด จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคําร้องของหมายจับต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ และสามารถติดตามจับกุม ผู้ต้องหาได้จํานวน 3 ราย ประกอบด้วย

1.น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม บุญญประภา อายุ 29 ปี ที่อยู่ 68/1 ม.2 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ. เชียงใหม่ ทําหน้าที่เป็นคนหลอกลวงให้เหยื่อไปทํางานที่ประเทศเมียนมา โดยสามารถจับกุมได้ที่ท่าข้าม ธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

2.นายอาหลู่ผะ หรือไวน์ เบียะสี อายุ 44 ปี ที่อยู่ 56/22 ม.2 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ สามีของ น.ส.ณัฐฐิตาฯ ทําหน้าที่เป็นคนนําพาเหยื่อลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมา สามารถจับกุมได้ที่ ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ถูกดําเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจาก บิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากําไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้น เต็มใจไปด้วย” , “ค้า มนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก หรือซึ่งได้กระทําแก่บุคคลผู้มีอายุต่ํากว่าสิบแปดปี” , “บังคับใช้แรงงานหรือ บริการ โดยข่มขืนใจผู้อื่นให้ทํางานหรือให้บริการโดยวิธีการนําภาระหนี้ของบุคคลอื่นส่งเสริม หรือยินยอมให้ เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทําให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิด” และ “ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทําด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก”

3.น.ส.สุพัฒตา หรือกิ่ง บุระเนตร อายุ 23 ปี ที่อยู่ 198 ม.17 ต.หัวนาคํา อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เป็น เจ้าของร้าน (KTV) ที่ประเทศเมียนมา บังคับเหยื่อค้าประเวณี โดยสามารถจับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่า สายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ถูกดําเนินคดีในความผิดฐาน ซื้อ จําหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ซึ่งถูกพราก ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากําไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็ม ใจไปด้วย” , “ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก หรือซึ่งได้กระทําแก่บุคคลผู้มีอายุต่ํากว่าสิบแปดปี” , “บังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยข่มขืนใจผู้อื่นให้ทํางานหรือให้บริการโดยวิธีการนําภาระหนี้ของบุคคลอื่น ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทําให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิด” และ “ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทําด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก”

พฤติการณ์ในคดีนี้กล่าวคือ น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม ฯ ผู้ต้องหา ได้ชักชวน น.ส.เอ ผ่านแอพพลิเคชั่น Line และ Facebook ให้ไปทํางานร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมาร์ โดยอ้างว่าจะได้เงินสัปดาห์ละ 50,000 บาท ทําประมาณ 2 เดือนจะมีเงินเก็บประมาณ 200,000 – 400,000 บาท ทําให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้น น.ส.ณัฐฐิตาฯ ได้ให้นายอาหลู่ผะฯ ซึ่งเป็นสามี พา น.ส.เอ ลักลอบข้ามชายแดนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ และนําไปส่งให้กับน.ส.สุพัฒตาฯ เจ้าของร้านอาหาร (KTV) หลังบ่อนการพนัน แจ็คดรา กอนไนท์ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยน.ส.สุพัฒตาฯ ได้บังคับให้ น.ส.เอ ขายบริการทางเพศ น.ส.เอ จึงได้ ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณา และได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กลับมายังประเทศไทยในที่สุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากมูลนิธิปวีณา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุด ปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกับสหวิชาชีพในการสอบถามข้อมูลจากเหยื่อ และรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวน หาตัวผู้กระทําความผิดในขบวนการดังกล่าว จนสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้งคนหลอกชักชวนเหยื่อ คน ลักลอบพาข้ามแดน และเจ้าของร้านคนไทยในประเทศเมียนมาที่อยู่รับตัวเหยื่อปลายทาง โดยใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ในการสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด

จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันดูแล บุตรหลานของท่าน รวมทั้งให้ระมัดระวังในการหางานผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย โดยหากพบ เบาะแสเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงเหยื่อไปค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ สามารถแจ้งได้ทุกช่องทางของ ศพดส.ตร. หรือสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

Loading…

More Stories

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.