“อัจฉริยะ” ร้อง ผบช.น. ปราบ 11 บ่อน ทั่วกรุง
1 min readวันนี้ (4 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ายื่นหนังสือตถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบวินัย ผกก.สน.ลุมพินี กับพวก กระทำผิดวินัย พรบ.ตำรวจ มาตรา79 (1) ที่ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ พร้อมทั้งขอให้สั่งการตรวจสอบและปิดบ่อนการพนันในนครบาล รวม 11 แห่ง ซึ่งเป็นบ่อนของกลุ่มนายตือ นายต๋อง และนายเก๋า ที่เปิดบ่อนแบบคาสิโนไฮโลไฮเท็ค ตู้ม้า โดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เรียกรับผลประโยชน์เป็นรายเดือน อีกด้วย โดยมี พ.ต.อ. ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว เป็นผู้รับหนังสือ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่าวันนี้มาต้อนรับ ผบช.น. คนใหม่ด้วย 2 เรื่อง คือ การตั้งกรรมการสอบวินัยผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีกับพวก ในกรณีที่ทำผิดวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 79(1) เนื่องจากมีการยัดข้อหาตนโดยมิชอบจากกรณีที่ทนายตั้มไปร้องเรียนตั้งแต่ปี 2564 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแต่จากการที่ บก.น.5 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา มีความเห็นว่าคดีดังกล่าวไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแต่เป็นความผิดดูหมิ่นตามมาตรา 393 ซึ่งคดีขาดอายุความแล้วจึงมีการเรียกตนไปรับทราบข้อเท็จจริงก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา โดยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่ทาง ผกก.สน.ลุมพินี ไม่ยอม อ้างว่ามีคนสั่งให้มาดำเนินการ และตนไม่ได้รับความยุติธรรม จึงมาร้องเรียนให้ผู้บัญชาการนครบาล ตั้งกรรมการสอบวินัย และเรื่องที่สองเป็นการตรวจสอบเรื่องบ่อนการพนันของนายตือ นายต๋อง และนายเก๋า ทั้งหมด 11 จุดในพื้นที่นครบาล อยู่ในพื้นที่ 11 สน. ซึ่งตนได้รับการร้องเรียนมาและมีภาพหลักฐานมาให้ ผบช.น. ได้ดำเนินการตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่ามีการเปิดบ่อนมานานแล้ว จะรอดูว่าฉายามือปราบจาก ภาค 2 มาอยู่นครบาลจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ ยังยืนยันนโยบายเดิมหรือไม่ จึงมาร้องให้ตั้งกรรมการตรวจสอบ เพราะตนก็อยากเห็น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนใหม่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือปราบบ่อนในตำรวจภูธรภาค 2 จะยังคงปฏิบัติเหมือนเดิมหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ. ปราโมทย์ กล่าวว่าสำหรับกรณีนี้จะรับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน เพราะมีระบบงานอยู่แล้ว ส่วนผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรก็จะแจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบในภายหลัง