ตร.ภาค 3 รวบหนุ่มใหญ่ อ้างเป็นรองผู้การ ตุ๋น ตร.จริง วิ่งเต้นขึ้นสารวัตร เปิดบัญชีม้า หลอกลงทุน
1 min read
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 พร้อม พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ 3 ควบคุมการปฏิบัติร่วมกับ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมแถลงผลการดำเนินคดีนายกานพล อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 108/65 ลงวันที่ 5 ต.ค.2565 กระทำความผิดฐาน “พยายามฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” พร้อมของกลางสมุดธนาคาร รวม 7 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจ ระดับรองสารวัตรจำนวน 8 แผ่น วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง ซิมการ์ดเครือข่ายดีแทคและทรู 11 อัน และบัตรกดเงินด่วน (ATM) 1 ใบ
พล.ต.ท สมประสงค์ รอง ผบช.ภ 3 เปิดเผยว่า กรณีมีผู้แอบอ้างเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงทำให้เกิดความเสียหายและอาจทำให้ประชาซนเข้าใจผิดในการซื้อขายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้ในพื้นที่รับผิดชอบอีสานใต้ 8 จังหวัดของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา มีการแอบอ้างเป็นตำรวจตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.จ.) ในจังหวัดนั้นๆ ได้หลอกลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่โดยมีฤทธิ์เดชสามารถช่วยการวิ่งขึ้นตำแหน่งสารวัตร ตนจึงกำชับให้เร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายและสามารถจับกุมตัวพร้อมของกลางได้โดยละม่อม เมื่อวันที่ 7 ต.ค ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายกานพล ให้การยอมรับได้แอบอ้างเป็น พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดซ รอง ผบก.น.9 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผบก.ก.จ.หนองคาย โดยนำรูปประจำตัวไปสมัครแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อหลอกลวงนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 14 ราย และรายชื่อนายตำรวจ นวน 40 ราย ในสมุดบัญชีที่ได้มาจากบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งระดับรองสารวัตรทั้ง 9 ภาค ที่ลงไว้ในโซเซียลมิเดีย ได้วางกลอุบายใช้วิธีการพุดคุยลักษณะเดียวกันทุกราย โดยโทรไปหาเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสารของ สภ.ต่างๆ ให้เหยื่อที่เป็นนายตำรวจติดต่อกลับนายเวรหน้าห้อง ผบ.เด่น หรือ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เบอร์โทร 0814878957 เมื่อพูดคุยก็อ้างตนเองคือ พ.ต.อ.พรชัย สามารถช่วยเหลือในการแต่งตั้งขึ้นตำแหน่งสารวัตรได้ บางรายให้ส่งประวัติการรับราชการมาให้ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อจะส่งให้นายพิจารณาและเรียกเงินเป็นค่าดำเนินการ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 14 ราย ไม่หลงเชื่อ จึงไม่โอนเงินให้ผู้ต้องหาและแจ้งเบาะแสให้ทราบ กระทั่งชุดสืบสวน กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 สืบทราบนายกานพล ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อนและถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมได้เมื่อปี 2555 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน และถูกฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุมเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2562 ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ในคดีหลอกเข้านักเรียนนายสิบตำรวจได้เงินจำนวน 30,000 บาท และ ที่ สภ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี คดีหลอกเข้านักเรียนนายสิบตำรวจเช่นกัน ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 เดือน พอพันโทษออกมาก็ไม่เข็ดหลาบยังมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่ห้องเช่าเลขที่ 5 ชั้น 3 ร้านเกมส์ไอเพลย์ เลขที่ 43/6 ถ.เทวฤทธิ์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ผบช.ภาค 3 กล่าวต่อว่า คนร้ายรายนี้มีพฤติการณ์เคยกระทำผิดหลายครั้งหลายพื้นที่ ซึ่งนายกานพล ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นเชลล์ขายแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ภาคเหนือกับเมียและลูก จึงไปซื้อซิมการ์ด มาใช้กับโทรศัพท์มือถือส่วนตัว ก่อนนำมาสมัครแอพพลิเคชั่นไลน์ใช้ซื่อ พ.ต.อ.พรชัย และใช้รูปประจำตัวของที่หามาได้จากทางโซเชียลมีเดียมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์จากนั้นโทรศัพท์ไปตามสถานีตำรวจต่างๆ เพื่อสุ่มหลอกลวงนายตำรวจสัญญาบัตร อ้างเป็นนายตำรวจระดับสูงปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. สามารถช่วยเหลือในการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นสารวัตรได้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็ใช้แพพลิเคชั่นไลน์ทักไปหาเพื่อความน่าเชื่อถือเรียกค่าดำเนินการรายละ 300,000 บาท แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลงเชื่อหากประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านใด ได้รับความเสียหาย ถูกคนร้ายรายนี้หลอกลวงให้ได้รับความเสียหาย สามารถร้องทุกข์เพิ่มเติม โดยประสานข้อมูลได้ที่ พ.ต.ต.อิทธิพล เพ็ญเดิมพันธ์โทร.093-4647453
และคดีกลุ่มคนร้ายใช้ช่องทางหลอกลวงหรือทำกลอุบายฉ้อโกงในหลายลักษณะรูปแบบ ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายจำนวนมากและสร้างความเสียหายมูลค่าที่สูงโดยมีกลุ่มคนร้ายหลอกลวงให้ลงทุนซื้อสกุลเงินดิจิตอลหรือเหรียญคริปโตสกุลต่างๆ โดยใช้แอพพลิเคชั่น “Coinbasepp” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก เหตุเกิดที่ สภ.เมือง นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21-27 พฤษภาคม 65 หลอกให้ลงทุนซื้อเหรียญคริปสกุลต่างๆ ความเสียหาย 888,786 บาท ได้ออกหมายจับจำนวน 6หมายพร้อมสืบสวนขยายผลกรณีนายพรสวรรค์ อายุ 36 ปี ถูกหลอกลงทุนซื้อสกุลเงินดิจิตอล ฯ โอนเงินเข้าบัญชีของคนร้ายจำนวน 871,542 บาท เมื่อผู้เสียหายจะถอนเงินออกจากระบบแด่ไม่สามารถดำเนินการได้และแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะปิดระบบหนีไป
จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของคนร้ายพบมีการโอนเงินไปยังบัญชีม้าอื่นๆ อีกหลายบัญชีเป็นเวลาต่อเนื่องกันภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาทีเพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมที่สลับซับช้อนยากในการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจึงได้ดำเนินคดีและออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
เจ้าของบัญชีทั้งหมดที่มีการรับโอนเงินเป็นทอดๆ จำนวน 3 ราย เป็นชายไทยใหญ่ 1 ราย หญิง จ.ลพบุรี 1 ราย หญิง จ.หนองคาย 1 ราย ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางสวน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
ผู้ที่จัดหาว่าจ้างในการให้ผู้อื่นเปิดบัญชี 3 ราย เป็น ชาย จ.ตาก ชาย จ.เชียงราย หญิง จ.อ่างทอง ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน บริษัทและเจ้าของร้านขายเหรียญโดยนำเงินที่ได้จากกลุ่มคนร้ายไปเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือแปลงสภาพเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมดำเนินการร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ดำเนินคดีทางแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด เพื่อเยียวยาคืนให้แก่ผู้เสียหายและเพื่อให้ทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
