บุรีรัมย์-หนุ่มวัย 38 ปี ผูกคอตัวเองตายภายในบ้าน แต่พบบาดแผลการถูกแทงหลายแห่ง ตรวจสอบเบื้องต้นคาดผูกคอตัวเองแล้วใช้มีดแทงซ้ำ น้องสาวเผยพี่ชายเคยเป็นช่างทุกชนิด แต่มาป่วยเป็นโรคลมชัก นาน 10 ปี ต้องทานยาทุกวัน เคยบ่นประจำอยากตาย เพราะ ทำงานไม่ค่อยได้ ไม่มีหญิงสนใจ ส่วนประเด็นแผลถูกแทงไม่ติดใจเชื่อพี่ทำตัวเอง
วันที่ 28 ต.ค.65 พ.ต.ท ไชยา แก้วยก สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านมีคนผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในบ้าน เลขที่66/1 หมู่ 1 ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่สร้างติดกับยุ้งข้าว (ภาษาอีสานเรียกว่าบ้านต่อเล้า) ภายในห้องนอน พบศพนายพลรัตน์ ไทยรัมย์ อานยุ 38 ปี ใช้เชือกผูกคอตัวเองติดกับขื่อของห้อง
จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่ตำรวจตั้งข้อสงสัย ว่าบริเวณท้องมีร่องรอยการถูกมีดแทง มีเลือดไหลหยดลงพื้น และยังพบมีดปลายแหลมหล่นอยู่ใกล้กับศพ เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่ามือขวาของผู้ตายมีคราบเลือด ประกอบกับรัศมีของบาดแผลสอดคล้องกับช่วงแขนของผู้ตาย คาดว่าผู้ตายน่าจะผูกคอตัวเองแล้วใช้มีดแทงซ้ำ
นาย บุญร่วม ไทยรัมย์ อายุ 62 ปี พ่อผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายป่วยเป็นโรคลมชักมาได้ประมาณ 10 ปี ทำให้ไม่สามารถทำงานด้านช่างได้ เพราะไม่มีใครจ้าง เนื่องจากมีโรคประจำตัว ทำให้ลูกชายมีอาการเหม่อลอยมานาน ต้องทานยามาตลอด
นางสาว รำพึง ไทยรัมย์ อายุ 33 ปี น้องสาวผู้ตาย เล่าว่า หลังจากพี่ชายป่วยเป็นโรคลมชักแล้ว มักจะบ่นเสมอว่าอยากตาย เพราะทำงาน ทำมาหากินไม่ค่อยได้ เหมือนคนปกติ และยังเคยบ่นอีกว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะมาสนใจ คงจะไม่ได้เมียอีกแล้วในชาตินี้ โดยเฉพาะช่วงก่อนตาย 2-3 วันพี่ชายบ่นหนัก แต่ไม่คิดว่าจะกล้าฆ่าตัวตายแบบนี้
ส่วนสาเหตุการตายของพี่ชายครอบครัวไม่ติดใจ เพราะเชื่อว่าพี่ชายทำตัวเองทั้งผูกคอและแทงตัวเอง
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวบุรีรัมย์