“ทนายนินู” พาสาวโร่แจ้งความ ถูกเพื่อนบ้านทหารยศจ่าด่า-ขู่ยิง หวั่นไม่ปลอดภัย
1 min readเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 11 ธ.ค.65 น.ส.ธนิดา แจ้งจำรัส หรือทนายนินู ทนายความ พร้อมด้วยนางสาวณัฏฐ์ชรินทร์ จตุทิพย์ภูสิน อายุ 39 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว นางสาวมยุรี เผ่ากันหา อายุ39 ปี อาชีพเเม่ค้าขายอาหารเดินทางไปที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งกับ พ.ต.ท.สมอาจ หมั่นอุตส่าห์ สารวัตรสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี กรณีถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นทหารยศจ่าอายุประมาณ 30 ปี สังกัดกองทัพเรือ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายและพูดจาข่มขู่จะทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานเกือบ 1 ปี ทำเพื่อนบ้านใกล้เคียงหวาดกลัว เกรงจะได้รับอันตราย ขณะที่บางรายกลัวถึงขั้นย้ายบ้านหนี เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านอำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี
นางสาวมยุรี เผ่ากันหา อายุ 39 ปี อาชีพเเม่ค้าขายอาหาร หนึ่งในผู้เสียหายที่เคยได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า เคสของตนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 ตอนนั้นตนยังอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันกับจ่าทหารคนดังกล่าว วันเกิดเหตุตนเดินผ่านหน้าบ้านเขาเพื่อที่จะไปร้านขายของชำ จากนั้นเขาก็ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายและข่มขู่ ตนก็งงว่าทำไมต้องมาด่ากันขนาดนี้ ซึ่งวันเกิดเรื่องตนได้เเจ้งความไปแล้ว ตำรวจก็เข้าไปเจรจากับจ่าทหาร สักพักเขาก็สงบลง พอตำรวจกลับ เขาก็เปิดฉากด่าต่อ เป็นแบบนี้มานาน ตนจึงตัดสินใจย้ายออกจากหมู่บ้าน เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับตนเองและครอบครัว ซึ่งตอนนี้บ้านของตนจะไม่มีคนอยู่ แต่ตนก็จะไปๆมาๆ เพราะยังเป็นห่วงบ้านอยู่ วันนี้ตนเดินทางมาเป็นเพื่อนนางสาวณัฏฐ์ชรินทร์ ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตน ใครเดินผ่านหน้าบ้านเขาไม่ได้ จะพูดจาด่าทอด้วยถ้อยหยาบคาย และข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย บางวันถึงขั้นขู่ว่าจะเอาปืนมายิง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าเขาเกรี้ยวกราดเกิดไป อยากใหเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้เด็ดขาด เพราะปล่อยไว้เขาแบบนี้อาจจะไปทำอันตรายคนอื่นได้
นางสาวณัฏฐ์ชรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยทนายนินู มาแจ้งความกรณีถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นทหารยศจ่า ข่มขู่คุกคาม ซึ่งก่อนหน้านี้จ่าทหารคนดังกล่าวได้ไปคุกคามคุณพ่อ โดยสั่งห้ามไม่ให้คุณพ่อออกจากบ้าน สาเหตุมาจากเขาไม่ชอบขี้หน้าคุณพ่อ ถ้าเมื่อไหร่ที่เห็นคุณพ่อของตนนั่งอยู่หน้าบ้านเขาก็จะตะโกนด่า บางครั้งก็ขู่ว่าจะเข้ามาเตะ ซึ่งคุณพ่อของตนไม่เคยมีเรื่องกับจ่าทหารคนนี้มาก่อนเลย แต่คุณพ่อของตนเคยมีปากเสียงกับแม่ของทหารคนนี้ แม่ของเขาก็เลยไปพูดว่าพ่อของตนไปด่าแม่เขา ซึ่งเหตุการณ์ ที่คุณพ่อของตนกับแม่ของเขาทะเลาะกัน เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 29 กันยายน เขาก็มาพูดจาหยาบคายและด่าทอเหมือนเดิม ซึ่งตนก็มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว วันที่ 8 ธันวาคม มาพูดจาข่มขู่พี่ชาย วันที่ 10 ธันวาคม มาด่าพ่อของตนและขู่ว่าจะยิงกราด ล่าสุดวันนี้ตนขับรถสวนทางกับเขา เมื่อเขาเห็นตน เขาก็ย้อนรถกลับมาแล้วเคาะกระจกรถเรียกให้ตนลงจากรถแต่ตนไม่กล้าลง ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ตอนนี้ตนรู้สึกเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของคุณพ่อมาก พ่ออายุ73 ปีแล้ว และคุณพ่อเพิ่งจะผ่าตัดมา ยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าค้ำ อยากจะฝากถึงต้นสังกัดหรือผู้บังคับบัญชาของ ให้ช่วยดูแลพฤติกรรมของจ่าทหารคนนี้ อย่าให้เขาเข้ามาคุกคามครอบครัวของตนอีกและขอให้หยุดการกระทำแบบนี้ด้วย
นายไชยวัฒน์ จตุทิพย์ภูสิน อายุ 49 ปี พี่ชายผู้เสียหายกล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไร แต่ 2 ครั้งในคลิปวันนี้พ่อตนไปตากผ้าหน้าบ้าน ลูกสาวตนไลน์มาบอกว่าแม่ของทหาร อยู่หน้าบ้าน ตนอาบน้ำอยู่ไม่ได้อ่านไลน์ พอตนลงมาเห็นพ่อยกตะกร้าผ้า ใส่ไม้แขวนเสื้อออกมา คนเลยแย่งตะกร้าผ้ากับไม้แขวนแล้วมาตากผ้าเอง ไม่อยากให้พ่อออกมาจากบ้าน เดี๋ยวทางแม่ทหารเห็น แล้วไปฟ้องลูกแต่ขณะที่ตนตากผ้าอยู่พ่อเดินออกมาจากบ้าน ตนไม่เห็นเดินออกไปหน้าบ้านแป๊บนึงแล้วเดินมานั่ง ทางทหารเลิกงานมารู้เรื่องเลยมาด่าหน้าบ้านตามคลิป เขาเคยน้องาสวของตนว่าให้เก็บพ่อมึงไว้ในบ้านเขาจะไม่ให้พ่อของตนเดินออกมาเจอหน้าแม่เขา ถ้าเจอหน้าเขาจะโทรไปบอกลูกเขากลับมาจากทำงาน เขาก็จะมาด่า ส่วนเรื่องที่เขาโกรธพ่อตนครั้งแรกนานแล้วเขาอ้างว่าพ่อของตนไปด่าแม่เขาว่า อีดอก แต่เขาไม่มีหลักฐาน พ่อของตนก็บอกว่าไม่ได้ด่า และไม่ได้ทำอะไรเลย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็มีปัญหามาตลอด วันเกิดเหตุที่มีการด่าว่าอีดอก ทางประธานหมู่บ้านได้เรียกมาไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย ทางครอบครัวของตนตัดปัญหา เลยให้ทั้งพ่อขอโทษมันจะได้จบ หลังจากพ่อของตนขอโทษ เขาบอกกับน้องสาวตนว่าต่อไปนี้เก็บพ่อมึงไว้ในบ้านไม่ต้องให้ออกมาเดินนอกบ้าน ไม่ต้องออกมาให้เจอหน้า ตอนที่บอกว่าไม่ให้ออกมาเจอหน้าแล้วเคลียร์กันเป็นเดือนกันยายน ทุกวันนี้แม่ของทหารออกมาแอบดูทุกวัน ว่าพ่อของตนออกมาจากบ้านหรือเปล่า ถ้าออกมาเมื่อไหร่ก็จะไปฟ้องลูก แล้วลูกก็จะมาด่าทุกครั้ง ตนรู้สึกแย่มากต้องมาให้คนอื่นมายืนด่าพ่อต่อหน้า ตนเห็นเขาเป็นทหารเลยไม่อยากมีปัญหาด้วย พยายามใจเย็นให้มากที่สุด ตอนนี้ตนอยากให้ต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องมาวุ่นวายกับครอบครัวไม่ว่าจะทางใด ไม่มีการด่าและไม่มาหาเรื่องพ่อของตนจะไปไหนมาไหนก็ได้
ทางด้านทนายนินู กล่าวว่า ผู้เสียหายได้นำเรื่องมาร้องเรียนตน ในกรณีจ่าทหารนายนี้ได้ข่มขู่คุณพ่อของผู้เสียหายที่อายุ 73 ปี มีโรคประจำตัวคือ หูตึง และไม่สามารถเดินหรือพยุงตัวได้ วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณพ่อและคนในบ้าน โดยวันนี้ก็ได้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่มีพฤติกรรมของทหารนายนี้ มีทั้งเรื่องข่มขู่รวมถึงเสียงด่าทอที่ทำให้เสียหาย ตนจึงอยากฝากว่าจะเก่งยังไงก็ต้องนึกถึงสิ่งที่ตามมาด้วยอำนาจของคุณไม่มีล้นเหลือ บ้านเมืองมีกฎหมาย ดังนั้นในทางคดีตนก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ในเบื้องต้นจากที่ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพฤติกรรมของจ่าทหารคนดังกล่าวเข้าข่ายฐานความผิดคือ ข่มขู่ ในมาตรา 329 อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะแจ้งเรื่องไปยังต้นสังกัดของทหารนายนี้ให้ดูแลควบคุมพฤติกรรมอย่างเคร่งครัดเพราะการทำพฤติกรรมแบบนี้เป็นภัยต่อสังคมหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็อาจทำให้เกิดเหตุการร้ายแรงกว่านี้ขึ้นได้