แก๊งอ้างตัว จนท.สรรพสามิต ข่มขู่รีดเงินยัดบุหรี่ปลอม ป้าวัย 75 ลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
1 min readจากกรณีนางสุณาภรณ์ บุญเกิด หรือป้าพร อายุ 75 ปี เจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่งใน ภายในซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน มาพร้อมรถตู้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ทำทีตรวจค้นร้าน เพื่อขอดูใบอนุญาตและยัดบุหรี่ปลอม ยี่ห้อเอสเอ็มเอส จำนวน 2 คัตตอล ก่อนจะพาตัวขึ้นรถ เพื่อรีดทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่มีให้จึงขอไปโรงพัก กลับถูกบังคับให้นำเงินสด จำนวน 5,500 บาทไป เมื่อวันที่ (13 ก.พ.) ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สน.บางเขน นางสุณาภรณ์ บุญเกิด อายุ 75 ปี หรือป้าพร เจ้าของร้านขายของชำในซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เดินทางพบพ.ต.ท.ดุสิต ลาวัลย์ สว.(สอบสวน)สน.บางเขน เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีชายแอบอ้างเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต 5 นาย ยัดบุหรี่เอสเอ็มเอสปลอม และบังคับเอาเงินไป 5,500 บาท
นางสุณาภรณ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่สบายใจเพราะป้าอยู่คนเดียวกับหลานเท่านั้น เพราะเขาขู่เอาไว้ไม่ให้บอกใคร เมื่อเป็นข่าวไปแล้วก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะไปถึงไหน ทั้งนี้จำทั้ง 5 คน ที่มาในวันเกิดเหตุได้ดีว่าใครทำอะไรบ้าง ใครเข้ามาหรือไม่เข้ามา ใครอยู่ข้างหน้าร้าน ใครเอาป้าไปที่รถตู้และให้ป้านั่ง คนที่เป็นหัวหน้านั่งอยู่ข้างหน้า และมีคนที่ขู่บอกให้ป้าเอาเงินให้ 20,000 บาท แต่ป้าไม่มีเงิน เขาจึงขู่บังคับเอาเงินที่อยู่ติดตัวนับธนบัตรใบละ 20 และ 100 รวมมีเงิน 5,700 บาท แต่ป้าซ่อนไว้ 200 บาทเพื่อเอาเงินไว้ให้หลานไปโรงเรียน และยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ทุกมุม ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มาให้การกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว รวมถึงพยานที่ขายก๋วยเตี๋ยวหลอดก็ได้เข้ามาให้ปากคำไว้เรียบร้อยแล้ว
นางสุณาภรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเช้ามีวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจยย.มาโยนซองบุหรี่นอกทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าร้าน ยืนยันว่าที่ร้านไม่มีขายบุหรี่ยี่ห้อนี้ ทั้งนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่ยอมโดยเด็ดขาดเพราะป้าโดนขนาดนี้จะมาขอร้อง จะเอากระเช้ามาให้ ป้าก็จะไม่ยอม เพราะป้าขอร้องยกมือไหว้เขาบนรถแล้วว่าอย่าทำๆ เขาก็ไม่ฟัง เขาพยายามจะเอาเงินให้ได้ อยากจะขอร้องเจ้าหน้าที่รัฐ ป้าไม่อยากจะสู้รบตบมือเพราะเป็นชาวบ้านธรรมดา ในบ้านก็ไม่มีผู้ชายมีแต่หลาน และป้าก็อายุ 75 ปีแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากจะขอให้ตำรวจช่วยด้วย ตอนนี้นอนก็หวาดระแวงไม่มีใคร ส่วนร้านถ้ามีเรื่องอย่างนี้ก็คงต้องปิดร้าน และร้านก็ไม่มีของแล้ว เงินเขาก็เอาไป ตอนนี้อยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะเขาขู่ว่าห้ามพูดถ้าพูดจะเอาให้หนักกว่านี้ เกิดเรื่องตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.66 ป้าคิดแล้วคิดอีกตัดสินใจเข้าแจ้งความวันที่ 16 ก.พ.66 เพราะกลัวว่าเขาจะมาอีก