“ชูวิทย์” ชี้ชะตาบ้านเมือง เตรียมแฉทุจริตคมนาคมหมื่นล้าน

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มอบเงินช่วยเหลือตำรวจที่ได้รับบัตรเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดนราธิวาส แล้ว ทางนายชูวิทย์กล่าวถึงคดีต่างๆ ที่ได้ติดตามอยู่ โดยได้ฝากบอกกับพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า ทุกเรื่องทางผบ.ตร.ติดตามได้ดี อย่างที่ผมบอกปัญหาอย่างไรเสียทุกประเทศจะต้องมีปัญหาเพราะตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย กำลังพลตำรวจมี 200,000 กว่าคน ผมมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกๆ คนอยู่ในระเบียบวินัย เมื่อพูดถึงตำรวจที่ไม่ดีจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ผมเพียงนำมาพูดให้ฟังและนำเสนอให้ทางผบ.ตร. ซึ่งผบ.ตร. เป็นผู้นำหน่วยที่ดีสามารถที่จะจัดการได้ วันนี้ได้ไปที่สน.นางเลิ้ง เนื่องจากมีสมาคมเถื่อนแห่งใหม่ที่เกิดขึ้นมาซึ่งจะต้องมีการดำเนินการ ผมได้พูดคุยกับทางมหาดไทยว่ามีบางจังหวัดซึ่งมีหลาย 100 สมาคมพบว่าเป็นสมาคมเถื่อน ทางสมาคมเถื่อนที่เจอมาเป็นสมาคมที่ตั้งขึ้นมาด้วยสาเหตุอื่นๆ เช่น ไปเรี่ยไร หรือไปทำอะไรที่ดูแล้วหมิ่นเหม่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าได้รับรายงานจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ว่าทางมหาดไทยมีตัวแทนไปแจ้งความที่สน.นางเลิ้ง ในข้อหาการเปิดสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จไปหลอกลวงคนจีนในประเทศไทย และนายชูวิทย์ก็ได้ไปกล่าวโทษในคดี 112 ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ใครพบเห็นการกระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ก็สามารถที่จะกล่าวโทษได้ ซึ่งทางตำรวจได้รับเรื่องไว้แล้ว หลังจากนี้จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป สำหรับสมาคมเถื่อนที่นายชูวิทย์พูดจะต้องประสานงานกับมหาดไทยในแต่ละพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบ ถ้าพบว่าเป็นการกระทำความผิดก็จะให้ทางมหาดไทยมีตัวแทนไปกล่าวโทษดำเนินคดีที่สถานีตำรวจต่อไป

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ผมมีข้อมูลทุจริตของกระทรวงคมนาคมจำนวนหลายหมื่นล้าน ผมคิดว่าใช้เป็นทุนให้กับพรรคการเมืองบางพรรค ตอนนี้ทุกพรรคการเมืองสะสมทุนเพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ผมขอเปิดเผยเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.66) เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการทุจริตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความยุติธรรมเกี่ยวกับอัยการ และจะเปิดเผยรูปแบบพนันออนไลน์รูปแบบต่างๆ ผมคิดว่าตำรวจคงจะกวาดล้างไม่หมด แอปพลิเคชั่นเงินกู้จีน ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ผมคิดว่าโดยภาพรวมผมทำได้แค่นี้ ผมถือว่าประเทศไทยไม่ใช่ของผมคนเดียว คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เดี๋ยวนี้ผมไปที่ไหน คุณเชื่อหรือไม่ว่าผมไปขอร้องให้เขาทำตามกฎหมาย เพราะทำผิดกฎหมายผมว่าทำได้ง่ายกว่า ทำถูกกฎหมายไม่รู้เป็นอะไรดูยากเย็นเหลือเกิน อย่างเรื่องหยูซินฉี ทำความผิดชัดเจนเพราะอ้างว่านำของขวัญไปมอบให้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยกลับนำไปหลอกลวงคนจีนด้วยกัน ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ผมนำไปให้ นายรังสิมันต์  โรม  ส.ส. บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล นำไปใช้ในการอภิปราย การทำให้ทุกคนทำตามกฎหมายเป็นการขอร้องโดยทั้งสิ้น ในบางกรณีผมจำเป็นต้องใช้วิธีการนอกเกม เมื่อผมไปขอร้องดีๆไม่ทำให้ผม ผมก็ต้องเอามาพูดออกมาแฉให้หยุดพฤติกรรมนั้นเสีย การทุจริตคอรัปชั่นไม่มีใครรู้ดีเท่าผม เพราะผมเคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ผมรู้ว่าเขารับประทานกันอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงนี้สังเกตให้ดีแล้วกัน ในการประชุมครม.นัดสุดท้ายจะมีการทิ้งทวนหลายๆ เรื่อง พรุ่งนี้ผมจะดูดวงโหราศาสตร์ความเป็นไปชะตาของบ้านเมืองข้างทำเนียบรัฐบาลตรงข้ามสำนักงานก.พ.

เมื่อถามว่าถ้าต่อไปมีข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตจะมีการเปิดโปงต่อไปหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า คุณจะอยู่กับผมตลอดหรือเปล่า ผมพูดบ่อยๆ คุณก็ต้องเบื่อ เป็นธรรมชาติของสื่อ ผมเคยเป็นสื่อมาก่อนเลยเข้าใจ ถ้าเห็นหน้าทุกวันๆ ก็จะบอกว่า ชูวิทย์มาอีกแล้วๆ ผมเลยขออนุญาตพูดเท่าที่พูดได้ วันนี้ผมมีเจตนาดี มีผู้ที่ใจเป็นธรรมโดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เลยเอาเงินมาให้ ถ้าท่านถามว่ายืนยันหรือไม่ ผมก็ยืนยันเต็มที่ เพราะผมไม่ได้รับเคลียร์ ไม่มีส่วนในเรื่องเคลียร์ต่างๆ เพราะผมมีพอแล้ว

เมื่อถามว่านอกจากมามอบเงินแล้ว จะมีการคุยกันนอกรอบกับ ผบ.ตร.หรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไม่มีหรอกครับ เพราะว่าท่านงานเยอะมาก ผมก็คงจะจบแค่นี้ เพราะจะรีบไปกินข้าวก่อน

เมื่อถามว่าสัปดาห์นี้คณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ จะเรียกให้ข้อมูลของนายพล จ. และสารวัตรซัว นายชูวิทย์ กล่าวว่า ท่านจเรหินผมรู้จักกับท่านมา 30 กว่าปีแล้ว ท่านเป็นคนดี เรื่องนี้ผมไปพบท่านแน่ แต่เนื่องจากวันนี้และวันพรุ่งนี้ผมจะไปทำเนียบ อีกวันท่านก็ไม่สะดวก แต่มีการนัดคุยกันนอกรอบก่อน เพราะเรื่องสารวัตรซัว มันเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ให้นายบ่อนเป็นนายตำรวจ ผมพูดจริงๆ เลยนะง่ายมาก คนไหนขับรถเฟอร์รารี คนไหนขับรถแลมโบกินี่ ตรวจเช็คเลยว่าประวัติที่บ้านเป็นยังไง ตระกูลเป็นยังไง มันตรวจสอบได้ไม่ยาก นาฬิกาใส่เรือนละ 20 ล้าน ก็ตรวจสอบได้ ถ้าบ้านร่ำรวยหรือพ่อแม่มีเงินไม่ยาก แต่ที่พบคือไม่มี อยู่ๆ มีขึ้นมา โดยนายซัวในอดีตไม่มีอะไร บ้านอยู่จันทบุรี เรียนโรงเรียนเก่าแก่แถวสามพราน และตั้งตนเป็นศาสดามีสาวกเรียนโรงเรียนเดียวกันมา และปล่อยให้เจริญเติบโต ผมเชื่อมือ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ท่านไม่ปล่อยแน่ เพราะที่ผ่านๆ มาผมไม่รู้ว่าไปเคลียร์กับใครถึงปล่อยให้เติบโตมาจนวันนี้ ผมหวังว่ายุคนี้เป็นยุคของท่าน ผบ.ตร.เด่น ผมเชื่อว่าท่านทำงานได้เด่นสมชื่อ ผมพร้อมจะสนับสนุนท่านเท่าที่ทำได้