ญาติร่ำไห้หัวใจสลาย! “รถทัวร์” ผ่าไฟแดง พุ่งชนหนุ่มไรเดอร์ดับคาที่

เมื่อเวลาประมาณ 10.28 ที่ผ่านมาบริเวณถนนเลียบคลองสอง เกิดเหตุรถทัวร์โดยสารนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งชน หนุ่มไรเดอร์เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณ ถนนเรียบคลองสองตัดกับถนนพระยาสุเรนทร์ โดยทราบชื่อผู้ตายในเวลาต่อมาคือ นายสันติภาพ สายอุ่นใจ อายุ 33 ปี

โดยทีมข่าวได้ภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ นาทีที่รถทัวร์พุ่งชน พบว่ารถทัวร์คันดังกล่าวมีการฝ่าสัญญาณไฟจราจรมาชนกับกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มีผู้ตายร่วมอยู่ด้วย

ทีมข่าวยังได้พูดคุย กลับนายเอ (นามสมุติ) ผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกรายซึ่งถูกบันทึกได้โดยกล้องหน้ารถเช่นเดียวกัน โดยนายเอ ระบุว่า ตนเองอยู่ระหว่างการเดินทางเตรียมจะไปทำงานตามปกติโดยตนเองใช้ถนนพระยาสุเรนทร์เพื่อจะมุ่งหน้าไปออกซอยรามอินทรา 109 ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุได้หยุดรอสัญญาณไฟเช่นเดียวกับรถคันอื่นๆ ก่อนที่ช่องทางการจราจรของตนเองได้รับสัญญาณไฟเขียวได้เริ่มทยอยเคลื่อนตัวกัน แต่ยังไม่ได้ใช้ความเร็วมากนักเนื่องจากสภาพพื้นผิวการจราจรเพิ่งมีฝนตกหนักและยังคงเปียกลื่น ก่อนที่หนุ่มไรเดอร์ผู้เสียชีวิตเป็นคันแรกที่ออกนำไปก่อนและตนเองได้ทยอยออกจากแถวหลังเพื่อเตรียมจะแซงขึ้นไปยังคันหน้าแต่เมื่อขับมาได้ถึงช่วงบริเวณด้านท้ายของรถจักรยานยนต์ของหนุ่มไรเดอร์ก็เห็นว่ารถทัวร์พุ่งชนหนุ่มไรเดอร์ด้วยความแรงโดยไม่มีเสียงเบรคแต่อย่างใดส่วนตนเองได้ถูกกระแทกเข้าที่ด้านข้างของตัวรถและเกือบถูกล้อหลังด้านซ้ายของรถทัวร์ ทับร่างกาย แต่โชคดีที่กลิ้งหันหน้าออกมาทำให้ไม่ถูกรถทัวร์ทับ

โดยตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและลำตัวด้านขวาทั้งแนวเนื่องจากเป็นส่วนของร่างกายที่กระแทกเข้ากับรถทัวร์อย่างแรง ยอมรับว่าขณะนั้นตนเอง มึนอย่างมากแต่เห็นว่ารถทัวร์ที่ใช้ถนนเลียบคลองสองมุ่งหน้าไปยังแยกซาฟารี ได้เลยแยกไปจอดอยู่ห่างประมาณ 100 เมตรจากจุดที่ชนตนเอง ส่วนหนุ่มไรเดอร์ ทราบว่า มีหลายคนพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและยังรู้สึกโชคดีที่ไม่ตัดสินใจแซงหนุ่มไรเดอร์คนนี้ขึ้นไปเพราะหากมีการแสงหนุ่มไรเดอร์ ขึ้นไปผู้เสียชีวิตก็คงมีตนเองร่วมอยู่ด้วย โดยเมื่อเสร็จสิ้นในขั้นตอนของทางพนักงานสอบสวนตนเองจะเดินทางไปทำบุญอีกครั้ง

ขณะที่ในส่วนของคดีตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการ รอขั้นตอนการพูดคุยกับพนักงานสอบสวนและให้ปากคำ แต่ทางคู่กรณียังไม่ได้มีการเข้ามาพูดคุยแต่อย่างใดแต่ตนเองทราบจากทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นว่าทางบริษัทรถทัวร์จะมีการดำเนินการชดใช้เยียวยาดูแลทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุเกิดจากการที่รถทัวร์คันดังกล่าวที่บรรทุกผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อไปส่งยังสวนสัตว์ซาฟารี แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงที่สัญญาณไฟกำลังจะเปลี่ยนเป็นห้ามจอดแต่รถทัวร์มาด้วยความเร็วจึงตัดสินใจประคองความเร็วเพราะหากเบรคอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเนื่องจากรถทัวร์มีน้ำหนักมากและพื้นผิวถนนมีความเปียกลื่น

ตนเองจึงอยากขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนโดยเฉพาะผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนขอให้สวมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัยและคอยระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากบุคคลอื่นรวมถึงผู้ใช้รถยนต์ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นอาจสร้างความสูญเสียในลักษณะนี้ ซึ่งตนเองเชื่อว่าผู้ขับขี่รถทุกคนต้องมีใบขับขี่และทราบกฎในเรื่องการเคารพสัญญาณจราจรเป็นอย่างดีแต่ไม่ทราบว่าสำหรับผู้ขับขี่รถทัวคันนี้เหตุใดจึงไม่มีการหยุดจอดตามสัญญาณไฟจราจร

ขณะที่ในส่วนของทางครอบครัวทีมข่าวได้พูดคุยกับทางญาติทราบว่าเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการให้ปากคำกับทางตำรวจจะมีการนำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลยังจังหวัดเพชรบูรณ์ ในอำเภอหล่มสัก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดาของทางผู้เสียชีวิต เนื่องจากบิดาของผู้เสียชีวิตไม่สามารถเดินทางมาดำเนินการตามขั้นตอนให้ได้ ส่วนตัวของผู้เสียชีวิตเป็นหนุ่มไรเดอร์เต็มเวลา โดยจะออกวิ่งเพื่อทำงานในช่วงเช้าและกลับมาพักแต่ช่วงสายก่อนจะกลับออกไปขี่ส่งอาหารอีกครั้งในช่วงเย็นซึ่งเป็นกิจวัตรปกติทุกวันโดยใช้เส้นทางขนส่งกันในละแวกพื้นที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ