“รังสิมันต์ โรม” ควงภรรยา มาศาลตามนัด ไต่สวนมูลฟ้องหมิ่นประมาท “ส.ว.อุปกิต”
1 min readจากกรณีที่นาย อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มอบหมายให้ทนายยื่นฟ้อง รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในข้อหา “หมิ่นประมาท” เนื่องในการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดย “รังสิมันต์ โรม” ได้อภิปรายในหัวข้อ ‘เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา’ โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต เรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566
วันนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นาย รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมทนาย ได้เดินทางมาตามนัดเพื่อฟัวการไต่สวนมูลฟ้องในคดี “หมิ่นประมาท” กรณี นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ฟ้องอภิปรายทั่วไปหมิ่นประมาท ส.ว. ทรงเอ
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ในการเปิดโปร่งในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งในการทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไป เป็นหน้าที่ที่ต้องบอกกับประชาชนและบอกกับสภา ว่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาดอย่างไร รัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นอย่างไร ยืนยันว่าข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง และข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นประโยชน์กับประชาชน พร้อมสู้เต็มที่
“ผมมั่นใจ และขอยืนยันว่า ในเนื้อหาสาระของผมในการทำหน้าที่ของผมมันเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมันเป็นการทำหน้าที่ตามกฏหมายมันเป็นการทำหน้าทีที่ผมยืนยันว่าข้อเท็จจริงต่างๆผมไม่ได้สร้างขึ้นมาเองนะครับและข้อเท็จจริงต่างๆเป็นประโยชน์ต่อประชาชน”
“หวังว่าคดีนี้จะได้รับการพิจารณาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และสุดท้าย ก็คงต้องตั้งคำถามไปถึงนายกฯ เหมือนกัน เพราะนายก ยังไม่เคยตอบคำถามเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ผมอยากให้นายกฯ ตอบคำถามเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกัน ตอบอย่างตรงไปตรงมา ก่อนหน้านี้เขาบอกเคยมีสัญญาเช่าก็อยากให้เอามาดูเหมือนกัน”
นายรังสิมันต์ โรม ย้ำว่า ในการทำหน้าที่ของตนทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และก็จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับการอภิปรายเช่นกันว่าการอภิปรายมันควรจะไปได้แค่ไหนสำหรับสังคมไทย เพราะต้องยอมรับว่าการทุจริตคอรัปชั่น ไม่สามารถทำโดยรัฐมนตรีคนเดียว แต่มันต้องอาศัยเครือข่าย และคนที่เกี่ยวข้อง
นายรังสิมันต์ โรม ย้ำว่า ในการทำหน้าที่ของตนทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และก็จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับการอภิปรายเช่นกันว่าการอภิปรายมันควรจะไปได้แค่ไหนสำหรับสังคมไทย เพราะต้องยอมรับว่าการทุจริตคอรัปชั่น ไม่สามารถทำโดยรัฐมนตรีคนเดียว แต่มันต้องอาศัยเครือข่าย และคนที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นายปริญ เกษะศิริ ทนายความส่วนตัวระบุว่า วันนี้ไม่มีความกังวล หรือหนักใจ เพราะนายรังสิมันต์ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญกำหนด และวันนี้เป็นวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง ก็จะยื่นคำแถลง เพื่อแถลงข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายให้ศาลได้รับทราบว่าคดีนี้ไม่ควรจะมีมูล นอกจากนี้กฎหมายยังเปิดช่องให้สามารถแถลงถึงบุคคล เอกสาร วัตถุพยาน ให้ศาลทราบและเรียกมาเป็นพยานศาล ประกอบดุลพินิจในการสั่งคดี และเตรียมคำแถลงยื่นแล้ว จะขอเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายสืบสวนของนครบาลให้มาเป็นพยานที่ศาล อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลต่อไป
สำหรับกรณีนี้ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ส่งทนายความยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ข้อหา หมิ่นประมาท หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา เนื่องจากในการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกวันที่ 15 ก.พ. 66 นายรังสิมันต์ อภิปรายในหัวข้อ ‘เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา’ โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต
Loading…