“ปราปต์ปฎล” ฉะDSIบางคนไม่เป็นธรรม ยันเดินหน้าสู้ต่อ
1 min readวันนี้ (3 พ.ค.66) นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชายชื่อดัง เปิดเผยภายหลัง ดีเอสไอ นัดนำตัวมาส่งฟ้องต่อ พนักงานอัยการคดีพิเศษ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ในฐานะผู้ต้องหาคดีฟอกเงินซึ่งเกี่ยวข้องการเส้นทางการเงิน Forex-3D คดีพิเศษที่ 36/2563
โดยระบุว่า คดีนี้ อัยการนัดฟังคำสั่งทางคดี ในวันที่ 6 มิ.ย.2566 ซึ่งขั้นตอน หลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้ ในชั้น พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ตนเอง ก็ไปรับทราบข้อกล่าวหา และมีระยะเวลาในการชี้แจงเอกสารตามข้อกล่าวหา
ปราปต์ปฎล ยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่ตนเองมองว่า การทำงานของดีเอสไอ เกี่ยวกับคดีนี้มีความไม่ชอบมาพากลในหลายเรื่อง ทั้ง เรื่องที่ตนเองพยายามชี้แจงว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงแชร์Forex 3D แต่ตนเองไปเกี่ยวกับคดี เพียงแค่ไปขับรถแอนตันมาร์ติน ของกู๋กี๋ ไปจอด ที่ จังหวัดราชบุรี ตามคำร้องขอ เพราะช่วงนั้นกู๋กี๋ ป่วย นอนที่โรงพยาบาล แต่ ดีเอสไอ กลับไม่ฟังคำชี้แจง หรือ แม้กระทั่งการแจ้งข้อกล่าวหาคดีร่วมกันฟอกเงิน ในคดีพิเศษที่ 36/2563 ที่มีการไปแจ้งข้อกล่าวหา กู๋กี๋ ในเรือนจำ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อช่วงต้นเดือน เมษายน พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหา ให้กับกู๋กี๋ แต่กู๋กี๋ ปฏิเสธที่จะเซ็นต์เอกสาร เพราะต้องการให้มีบุคคลที่วางใจ ก็คือทนายความ ช่วยดูเอกสาร ในวันดังกล่าว พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้กลับไปโดยไม่ได้ลายเซ็นของกู๋กี๋
จากนั้น ในวันถัดมา ดีเอสไอ กลับเข้าไปในเรือนจำอีกครั้ง พร้อมกับทนายสิทธิ์ ซึ่งไม่ใช่ทนายที่ดูแลคดีให้ โดย ทนายสิทธิ์ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ในเรือนจำพยายาม เกลี้ยกล่อมเพื่อให้ กู๋กี๋ กดดันจนต้องยอมรับทราบข้อกล่าวหา และลงลายมือชื่อในเอกสาร โดยไม่มีการสอบปากคำใดๆ มองว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์ผู้ต้องหา ที่ถูกคุมขังอยู่ด้านใน
นายปราปต์ปฎล ยังกล่าวย้ำว่า หากท้ายที่สุดแล้ว ตนเองจะถูกอัยการสั่งฟ้องคดี หรือ สั่งไม่ฟ้อง ตนเองก็จะเดินหน้าเพื่อเรียกร้องทรัพย์สินที่ มีการอายัดไปจากจำเลยในคดีนี้ กลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย ให้ได้มากที่สุด
ขณะที่ทนายความของปราปต์ปฎล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ทำการอายัดมาจากผู้ต้องหา และจำเลยในคดีแชร์ Forex 3D ว่า ศาลได้มีคำสั่งตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 ว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดทรัพย์ไว้ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ นั้นเมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว ให้คืนทรัพย์ให้ผู้เสียหาย ทั้งหมดที่ไปยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์คืนจำนวนกว่า 9,000 ราย โดยไม่ให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน