“ทนายรณณรงค์” นำผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกเทรดหุ้นเข้าแจ้งความต่อผบช.สอท.เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย

โดยคุณคิง อายุ 48 ปี ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา มีคนทักเข้ามาที่ติ๊กต๊อกของตนเอง  พร้อมชวนให้ตนทำรายได้เสริมผ่านการกดติดตามคลิป อ้างว่าตนมียอดผู้ติดตามถึง 1,000 คนอันเข้าเงื่อนไขทำรายได้เสริมนี้ โดยจะให้คลิปละ 15 บาท ตนจึงลองกดติดตามไป 3 คลิป ก็ได้เงินตอบแทนกลับมาจริง ๆ จึงต้องลงทำภารกิจให้ ต่อมามิจฉาชีพได้ชวนให้ตนลงทุน ซึ่งจะได้กำไรมากกว่ากดติดตามคลิป โดยลงทุนครั้งแรก 100 บาท จะได้คืน 130 ถ้าลงทุน 200 บาท ก็จะได้ 260 ก่อนจะแนะนำให้ตนเองสมัครลิงค์ในโปรแกรมของเขาเป็นเงิน 500 บาท เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการโอนเงินผ่านระบบลิงค์

ต่อมาทางมิจฉาชีพได้ชักชวนให้ตนเองลงทุนเทรดหุ้น โดยจะได้ผลตอบแทนถึง 60% ตนจึงลงไปก่อนครั้งแรก 5,900 บาท ก็ได้กำไรกลับมาอยู่ในบัญชี จึงได้เริ่มลงทุนไปอีก เป็นครั้งที่ 2 จำนวน 19,000 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 250,000 บาท ต่อมาทางมิจฉาชีพอ้างว่า ตนเองทำผิดขั้นตอนระเบียบ รวมทั้งต้องเสียค่าภาษี ค่าธรรมเนียม ไม่สามารถถอนเงินออกไปได้ ให้ตนโอนเงิน เข้าไปอีกหลายครั้ง ในวันที่ 4 มิถุนายนตนโอนเงินเข้าไปอีก 490,000 บาท ทางมิจฉาชีพก็อ้างว่ายังไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ เพราะตนยังทำผิดระเบียบขั้นตอน
จนกระทั่งวันที่ 7 มิถุนายน ตนได้โอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกชวนเล่นเทรดหุ้นอีกหลายครั้ง จนยอดเงินอยู่ที่ 3,788,215 บาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน ตนพยายามจะขอเงินต้นคืน แต่ทางเขาอ้างว่า ยังไม่สามารถถอนได้ เพราะต้องรอเสียภาษีและค่าธรรมเนียม รวมทั้งพยายามโน้มน้าวให้ตนโอนเงินเข้าไปอีก จนรู้สึกเอะใจว่าน่าจะถูกหลอกแน่ เลยมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์และตำรวจ สอท. ให้ช่วยดำเนินคดีให้ ตามข้อหาฉ้อโกงประชาชน / ความผิดฐานบัญชีม้า / และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และคาดหวังว่าจะได้เงินกลับคืนมา

ด้าน พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ลงมารับมอบหนังสือพร้อมระบุว่า เรื่องนี้จะทาง สอท.จะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินและพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป พร้อมฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อพวกหลอกให้ซื้อขายสินค้าหรือทำภารกิจในออนไลน์ ตอนนี้ยอดแจ้งความอาชญากรรมเทคโนโลยีต่อวันทะลุ 700 ราย ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มหลอกลวงเหล่านี้
ขณะที่ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า คดีนี้หากสามารถไล่อายัดเงินทัน ก็สามารถนำเงินคืนมาได้ แต่ยอมรับว่ายาก เพราะคนร้ายมักจะรีบโอนเงินส่งต่อไปแปรสภาพเป็นสินทรัพย์อื่นแล้ว สิ่งสำคัญคือป้องกันตนเอง อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ ไม่มีงานไหนที่ต้องโอนเงินก่อนถึงจะได้เงิน ไม่มีอยู่จริง รวมทั้งเสริมว่า ผู้เสียหายหากรู้ตัวว่าถูกหลอก ให้รีบแจ้งธนาคารเจ้าของบัญชีดำเนินการอายัดบัญชีได้ 3 วัน โดยระหว่างนี้ให้รีบแจ้งตำรวจไซเบอร์หรือตำรวจท้องที่เพื่อให้อายัดบัญชีต่ออีก 7 วัน ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ก.ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือสามารถโทรมาที่สายด่วน 1441 ของตำรวจไซเบอร์เพื่อแจ้วความร้องทุกข์หรือตรวจสอบข้อมูลที่อาจจะถูกผู้เสียหายหลอกได้ตลอด 24 ชั่วโมง