ผบ.ตร.ไม่เชื่อปมเรียกรับสินบน 140 ล้าน เป็นเกมส์ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนต่อไป
1 min readผบ.ตร.ไม่เชื่อ ปมเรียกรับสิน 140 ล้านบาทเป็นเกมส์ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนต่อไป ซัดกลับให้ถามคนพูดว่ามีหลักหรือไม่ ยืนยันตำรวจทำตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ
จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง พาดพิงถึงประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับสินบนผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บการพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับการแย่งชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปว่ามีนายตำรวจระดับสูงกว่าอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี อยู่เบื้องหลัง
พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่าตำรวจมีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงตำรวจระดับสูงกว่าผู้บังคับการจังหวัดชลบุรีเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้นั้น ยังไม่พบหลักฐาน ย้อนสื่อมวลชนให้กลับไปถามนายชูวิทย์ ว่ามีหลักฐานในการกล่าวหาในสิ่งที่พูดหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องของการแซะเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องของการร้องเรียนผู้เสียหายที่มาแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.คูคต นำไปสู่การขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้เนี่ยได้มอบหมายให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลรับผิดชอบและขยายผลในเรื่องนี้ โดยกำชับสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา แต่เบื้องต้นจากพฤติกรรมของตำรวจที่เรียกรับสินบน เข้าข่ายการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บอุ้มหาย โดยมีบางขั้นตอนที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง
ส่วนประเด็นการออกคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ต.ธนาวุฒิ จงจิระ ผู้บังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการแต่งตั้งที่ไม่เหมาะสม เนื่องจาก พล.ต.ต.ธนาวุฒิ เป็นหนึ่งในตำรวจที่ถูกพล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แจ้งความดำเนินคดีในข้อหากลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ ในคดีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาในพลูวิลล่า ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2565 โดยเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสสร์ เผยว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นผู้ที่เสนอรายชื่อมา ส่วนตัวมองว่าเป็นคนละส่วนกัน และไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย ขอให้ทำงานไประยะหนึ่งหากพบว่าทำงานบกพร่อง ก็สามารถพิจารณาโยกย้ายได้ภายหลัง
สำหรับในเรื่องของการตั้งชุดเฉพาะกิจในพื้นที่ต่าง ๆ ในบางพื้นที่อาจจะไม่มีการแต่งตั้งเป็นคำสั่งอย่างเป็นทางการ แต่อาจจะเป็นการตามสถานการณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดในพื้นที่ แต่ในส่วนนี้จะนำเข้าที่ประชุมหารือพิจารณาในเรื่องของความเหมาะสมการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจ และทบทวนว่าสมควรหรือไม่