สืบ ตม.1 รวบสาว 18 มงกุฎ ตุ๋นเหยื่อหาเช่าคอนโดเชิดเงินมัดจำ ผงะประวัติไม่ธรรมดา ผู้เสียหายจ่อแจ้งความเพียบ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้จับกุม น.ส.แพทตี้ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 288/2566 ลงวันที่ 26 มกราคม 2566 ในข้อหา “ ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน” โดยได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาที่ 802/2566 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ให้ค้นบ้านพักย่านรัชดาภิเษก กรุงเทพ จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาและจับกุมไว้ได้

พฤติการณ์ของนางสาวแพท จะใช้บัญชี Facebook ส่วนตัว เข้าไปโพสต์ในเพจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเช่า หรือคอนโดมิเนียม หรือรับเหมาตกแต่งภายใน เพื่อหาเหยื่อในการติดต่อขอเช่า โดยนางสาวแพทจะใช้วิธีการไปติดต่อกับเจ้าของ และตกลงเพื่อจะเช่าโดยการให้เงินจองไปส่วนหนึ่งและออกอุบายในการขอกุญแจหรือคีย์การ์ดมาก่อน จากนั้นจะนำข้อมูลเกี่ยวกับบ้านหรือห้องเช่าและภาพถ่ายไปโพสตามกลุ่มต่างๆ และอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของให้ปล่อยเช่าเอง เพื่อหาเหยื่อที่จะมาทำสัญญาเช่าและเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า 3 – 4 เดือน จากนั้นพอเหยื่อเข้ามาอยู่ ได้ประมาณหนึ่งเดือนจนครบวันจ่ายค่าเช่า ก็จะจ่ายกับนางสาวแพท ปรากฏว่าเจ้าของตัวจริงเข้ามาตามที่บ้าน หรือถ้าเป็นคอนโดก็จะแจ้งทางนิติบุคคลอาคารชุดให้ระงับคีย์การ์ด พอติดต่อไปก็จะใช้อุบายในการบ่ายเบี่ยง สารพัดปัญหา จนเหยื่อบางรายต้องถูกเจ้าของห้องที่แท้จริงขับไล่ บ้านพักก็ไม่มีอยู่ เงินก็สูญ ไม่สามารถติดตามเงินมัดจำที่จ่ายกับ น.ส.แพทได้ ซึ่งได้ตระเวนทำพฤติกรรมดังกล่าวไปในหลายท้องที่ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย พบเคยมีประวัติก่อคดี จนกระทั่งมีการออกหมายจับถึง 5 หมายจับและยังมีผู้เสียหายรายอื่นที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งความเสียหายของแต่ละคนจะตกอยู่ประมาณคนละ 20,000 ถึง 60,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายบางรายก็ไม่ประสงค์จะแจ้งความเนื่องจากกลัวเสียเวลา น.ส.แพท จึงเกิดความได้ใจแหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า ผู้เสียหายบางรายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถูก เป็นบุคคลมีชื่อเสียง รวมถึงบุคคลต่างด้าวทำให้ไม่กล้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ประสานข้อมูลกับกลุ่มผู้เสียหายในคดีอื่นๆ อีกต่อไป

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำเตือนประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูล ความน่าเชื่อถือ และองค์ประกอบอื่นๆให้ถี่ถ้วนก่อนทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาเช่า หรือทำการจ้างทำกิจการใดๆ เพื่อมิให้มิจฉาชีพอาศัยโอกาสเหล่านี้ในการก่อเหตุ