พุธ. พ.ย. 27th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ปส.บุกทลายเครือข่าย จับยาบ้า 22 ล้านเม็ด ไอซ์ 620 กิโลฯ รถยนต์ 19 คัน

1 min read

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติด 7 ราย สามารถจับกุมผู้ต้องหารวม 17 ราย ยึดของกลางเป็นยาบ้า 22 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 620 กิโลกรัม รถยนต์ 19 คัน และทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องจากยาเสพติด 8 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคดีลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายพื้นที่ภาคอีสาน 4 คดี ภาคเหนือ 2 คดี และภาคกลางอีก 1 คดี โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้นำของกลางยาเสพติดทั้งหมด มาตั้งแสดงแก่สื่อมวลชนประกอบการแถลงข่าว

โดยคดีแรก สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในภาคอีสาน โดยลำเลียงยาเสพติดจาก อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีเป้าหมายส่งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในภาคกลาง โดย ตำรวจ ปส. ได้เฝ้าติดตามจนพบรถยนต์เป้าหมาย ที่บริเวณสี่แยกบ้านท่าจังหวัดสกลนคร จนสามารถตามสกัดจับกุมผู้ต้องหา 1 รายได้ที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยยึดรถของกลางเป็นรถกระบะ 1 คัน ภายในรถซุกซ่อนยาบ้า 5 กระสอบ รวมกว่า 2 ล้านเม็ด

คดีที่ 2 สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดชาติพันธุ์ม้งรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งทางตำรวจสืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ส่งไปยังผู้รับช่วงต่อในพื้นที่ภาคกลาง โดยคดีนี้สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรก จับได้ที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย มีพฤติการณ์ขนลำเลียงยาเสพติด พร้อมรถยนต์ของกลาง 1 คัน ซึ่งภายในรถซุกซ่อนยาไอซ์ 500 กิโลกรัม ส่วนกลุ่มที่ 2 สามารถจับกุมได้ที่ อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมรถกระบะของกลาง 1 คัน พบว่ากลุ่มที่ 2 มีพฤติการณ์คุ้มกันและสำรวจเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด โดยคดีนี้ได้ดำเนินการยึดทรัพย์สินจากกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 2 ล้านบาท

คดีที่ 3 สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เป็นขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานสืบทราบว่าลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสกลนคร อุดรธานี ขอนแก่น และชัยภูมิ มีเป้าหมายปลายทางส่งยาเสพติดที่จังหวัดสระบุรี โดยตำรวจสามารถสกัดจับได้ที่จังหวัดชัยภูมิ ได้ตัวผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมรถยนต์ 1 คัน ภายในรถซุกซ่อนยาไอซ์ บรรจุในถุงชาสีเขียวอ่อน 3 กระสอบ จำนวน 120 ก้อน น้ำหนัก 120 กิโลกรัม ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง

คดีที่ 4 เป็นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดสุโขทัย โดยมีเป้าหมายไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสามารถสกัดจับผู้ต้องหาได้ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี พร้อมของกลางเป็นรถกระบะ 1 คัน ซึ่งภายในรถกระบะซุกซ่อนยาบ้า 3 ล้านเม็ด และสามารถยึดรถยนต์ได้อีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่คอยขับคุ้มกันและสำรวจด่าน โดยคดีนี้ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ไปจำนวนหนึ่งล้าน 6 แสนบาท

คดีที่ 5 สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ลำเลียงจากอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายนำยาเสพติดไปซุกซ่อนในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย  โดยสามารถสกัดจับกุมได้ที่ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมรถกระบะ 1 คันภายในรถทุกซ่อนยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด

คดีที่ 6 ซึ่งถือว่าจับผู้ต้องหาได้มากที่สุด เป็นเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน จากการสืบสวนพบว่า เครือข่ายนี้ลำเลียงยาเสพติด 3 คันรถยนต์ จากริมแม่น้ำโขง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีเป้าหมายส่งยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยลำเลียงผ่านทางถนนมิตรภาพ ซึ่งตำรวจสามารถสกัดจับกุมขบวนลำเลียงยาเสพติดนี้ได้ทั้ง 3 คัน โดย 2 คัน จับได้ในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และอีก 1 คันจับได้ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้ตัวผู้ต้องหา 6 ราย พบของกลางเป็นยาบ้า คันละ 4 กระสอบ เบ็ดเสร็จรวมทั้งสิ้น 12 กระสอบ 5 ล้านเม็ด เบื้องต้น สามารถขยายผลคดีนี้จนยึดรถยนต์เพิ่มเติมได้อีก 8 คันในพื้นที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง และดำเนินการยึดทรัพย์สินมูลค่า 8 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จคดีนี้มีรถยนต์ของกลางทั้งสิ้น 11 คัน

คดีที่ 7 สามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม เป็นขบวนการยาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสาน โดยลำเลียงยาเสพติดจากอำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร มุ่งหน้าไปยัง จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดนครราชสีมา โดยตำรวจสามารถสกัดจับได้ที่ริมถนนมิตรภาพ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ได้ตัวผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางเป็นรถกระบะ 1 คัน ภายในรถพบว่าถูกซ่อนยาบ้า 15 กระสอบรวม 6 ล้านเม็ด ซึ่งคดีนี้ได้ดำเนินการยึดทรัพย์สินไปจำนวนทั้งสิ้น 700,000 บาท

โดย พล.ต.อ.ชินภัทร ระบุว่า ทั้ง 7 คดีเป็นคนละเครือข่ายกัน แต่มีต้นทางเดียวกันคือ ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเครือข่ายต่าง ๆ ก็ส่งคนไปรับยาเสพติดแล้วมากระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศตามเป้าหมาย ซึ่งความน่ากังวลคือ ในช่วงหลังมานี้ เครือข่ายยาเสพติดได้ลักลอบขนยาเสพติดง่ายขึ้น  จากแต่ก่อนที่จะลำเลียงผ่านรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่  เปลี่ยนมาเป็นการซุกซ่อนตามรถยนต์ทั่วไป ซึ่งยากที่จะสังเกตและสามารถเล็ดลอดสายตาตำรวจมากระจายยาเสพติดภายในเมืองได้ง่ายขึ้น ซึ่งทางตำรวจ ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะกวดขันเข้มงวดมากขึ้น ในการตรวจตราและสืบสวนขบวนการยาเสพติดเหล่านี้ รวมทั้งประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ให้ช่วยกันสกัดและป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดข้ามแดน

นอกจากนี้ ยังแสดงความกังวลถึงกลุ่มผู้ต้องหาขนย้ายยาเสพติด ที่หลัง ๆ มานี้พบว่า มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ คาดว่าเกิดจากการที่กลุ่มครเหล่านี้ไม่มีงานทำและเห็นว่างานลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นงานที่ได้เงินดี จึงต้องช่วยกันเฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์แก่ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ว่า อย่าหลงใหลในผลประโยชน์ ที่แม้ว่าจะได้มาง่าย ๆ แต่ก็เสี่ยงความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองและ เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดภัยต่อสังคมได้

ส่วนในทางคดี หลังจากนี้ทางตำรวจ ปส. จะดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาตามกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ รวมทั้งจะสืบสวนขยายผลถึงตัวการรายใหญ่และขบวนการรายอื่น ๆ ต่อไป นอกจากนี้ยังเสนอแนะให้ออกกฎหมายตรวจตราเข้มงวดกับบรรดาขนส่งเอกชน เพราะมีความกังวลว่า กลุ่มขนส่งเอกชนที่ไม่มีกฎหมายควบคุมนั้น อาจจะถูกใช้เป็นช่องทางในการ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านการขนส่งสินค้าอีกด้วย

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.