เมียร่ำไห้ใจสลาย! ฝนยังไม่ทันตก ชวนกันออกไปนา ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว ผัวดับ เมียรอดหวุดหวิด
1 min readเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.ค. 2566 เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.ผักไหม ได้รับแจ้งมีเหตุฟ้าผ่าคนเสียชีวิต ที่บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ที่ 4 ต.ผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณคันนา พบร่าง นายสูรย์ ตรีแก้ว อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 บ้านไฮใหญ่ หมู่ที่ 6 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ สภาพศพนอนหงายสวมแว่นตาเสียชีวิตคาที่ ริมคันนา บริเวณท้ายทอยมีรอยไหม้เกรียม เสื้อผ้าและหมวกขาดลุ่ย คล้ายถูกไฟไหม้ บริเวณโดยรอบพบเครื่องสูบน้ำ กระติกน้ำ และมีดบังตอวางอยู่ 1 เล่ม
โดยมี นางดาวเรือง ตรีแก้ว อายุ 63 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ข้างศพ เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพออกจากพื้นที่และทำการตรวจชันสูตร
นางดาวเรือง ตรีแก้ว อายุ 63 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีตน เป็นสมาชิกสภา อบต.กล้วยกว้าง ได้รับเลือกเป็นสมัยที่ 2 ก่อนเกิดเหตุตนและสามี ได้นำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำเข้านาเพื่อดำนาปลูกข้าว โดยขณะนั้นท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่ฝนยังไม่ตก ตนได้บอกกับสามีตนว่า จะไปถอนกล้าเพื่อเตรียมปักดำ ขณะที่เดินห่างออกไปได้ประมาณ 10 เมตร ได้เกิดเสียงฟ้าร้องขึ้นมา 1 ครั้ง จากนั้นไม่นาน ได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา 1 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าฟ้าผ่าอะไร รับรู้แค่ว่าตนกระเด็นคล้ายมีแรงผลักจนล้มลงกับพื้น เจ็บจี๊ดถึงขั้วหัวใจ แล้วหมดสติไปประมาณ 15-30 นาที พอรู้สึกตัวก็คิดแต่ในใจว่า ตนหมดสติล้มลงไป ทำไมสามีไม่มาช่วย จึงพยายามลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปหาสามี ก็พบว่าสามีตนถูกฟ้าผ่าจนเสียชีวิตไปแล้ว จึงร้องตะโกนขอให้ชาวบ้านช่วย แต่ขณะนั้นไม่มีใครอยู่ในทุ่งนาเลย จึงขี่รถจักยานยนต์กลับเข้าหมู่บ้านเพื่อไปบอกให้คนช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจ มาตรวจสอบดังกล่าว
อย่างไรก็ตามหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยทับทัน พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ห้วยทับทัน ได้ร่วมกับตรวจชันสูตรพลิกศพแล้ว ญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต จึงได้ส่งมอบศพให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน
Loading…