พฤหัส. พ.ย. 7th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ฉลาดแกมโกง!สืบนครบาล ร่วม PCT5 จับกุม แอปเปิ้ล จังหาร มิจหัวใสสับขาหลอกบัญชีผู้บริสุทธิ์หลายรายถูกแจ้งความ ตนเองลอยนวล

1 min read

      ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น.

ได้รับแจ้งเบาะแสติดตามจับกุมแอปเปิ้ล จังหาร แผนประทุษกรรมสุดอึ้ง ยัดเยียดความผิดให้ผู้บริสุทธิ์ ตนเองลอยนวล โดยทำทีมีพฤติกรรมเปิดร้านค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านช่องทางอินสตราแกรม และเพจเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อติดต่อขอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม คนร้ายจะส่งเลขที่บัญชีธนาคารของร้านค้าอื่น (ซึ่งเป็นอีกกลุ่มผู้เสียหาย) เช่น ร้านเสริมสวย เครื่องสำอาง หรือ พวงมาลัยเงินสด จากนั้นเมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้บัญชีร้านค้านั้นๆ แล้ว คนร้ายจะขอสลิปโอนเงินแล้วนำไปส่งให้ร้านค้า โดยแจ้งกับร้านค้าว่า พี่สาว หรือ พี่ชาย ของตน เป็นคนโอนเงินไปให้แล้ว เมื่อร้านค้าได้เงินเสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งสินค้าให้คนร้าย โดยเหยื่อกลุ่มที่โอนเงินเพื่อสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ได้รับสินค้าจากคนร้ายและโดนบล็อคช่องทางการติดต่อ  จึงเข้าใจว่าบัญชีธนาคารของร้านค้าที่คนร้ายส่งให้ (กลุ่มที่คนร้ายซื้อหรือใช้บริการ) นั้นเป็นบัญชีคนร้าย จึงได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีร้านค้า สร้างความเสียหาย 2 ล้านบาท และประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกดำเนินคดี

            เมื่อวันที่ 11  กรกฎาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม

          นางสาวสุนันทา ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 หมายจับ ดังนี้

1) หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.94/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ฉ้อโกงโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน ” (สภ.แสนสุข ภ.จว.ชลบุรี)
2) หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.146/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ฉ้อโกงประชาชนแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ” (สภ.บางเลน ภ.จว.นครปฐม)
3) หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 103/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาและฉ้อโกงผู้อื่น ” (สภ.วังน้อย ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา)

        พฤติการณ์กล่าวคือ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบนโยบายให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ตลอดจนสืบมวลชนที่เผยแพร่ข่าวให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางสาวสุนันทา หรือแอปเปิ้ล คำมูลทา ซี่งมีพฤติการณ์หลอกเหยื่อให้โอนเงิน โดยทำทีเปิดร้านค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านช่องทางอินสตราแกรม และเพจเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อติดต่อขอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม คนร้ายจะส่งเลขที่บัญชีธนาคารของร้านค้าอื่น (ซึ่งเป็นอีกกลุ่มผู้เสียหาย) เช่น ร้านเสริมสวย เครื่องสำอาง หรือ พวงมาลัยเงินสด ที่คนร้ายต้องการซื้อหรือใช้บริการนั้นไปให้เหยื่อกลุ่มที่ต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม จากนั้นเมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้บัญชีร้านค้านั้นๆ แล้ว คนร้ายจะขอสลิปโอนเงินแล้วนำไปส่งให้ร้านค้า โดยแจ้งกับร้านค้าว่า พี่สาว หรือ พี่ชาย ของตน เป็นคนโอนเงินไปให้แล้ว เมื่อร้านค้าได้เงินเสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งสินค้าให้คนร้าย โดยเหยื่อกลุ่มที่โอนเงินเพื่อสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ได้รับสินค้าจากคนร้ายและโดนบล็อคช่องทางการติดต่อ  จึงเข้าใจว่าบัญชีธนาคารของร้านค้าที่คนร้ายส่งให้ (กลุ่มที่คนร้ายซื้อหรือใช้บริการ) นั้นเป็นบัญชีคนร้าย จึงได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีร้านค้า เป็นเหตุให้มีกลุ่มผู้เสียหายเกิดขึ้น 2 กลุ่ม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับคดีติดต่อไปทางเจ้าของบัญชีปลายทางที่เป็นกลุ่มที่คนร้ายต้องการซื้อหรือใช้บริการ จึงทราบเรื่องว่าโดนเอาหมายเลขบัญชีไปใช้หลอกให้ลูกค้าโอนเงิน จึงเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อทางร้าน ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นบัญชีคนโกง ซึ่งกรรมวิธีนี้คนร้ายจงใจ “สับขาหลอก” เพื่ออำพลางมิให้เจ้าหน้าที่สืบสาวถึงตนเองได้ ด้วยความ “ฉลาดแกมโกง” ของมิจฉาชีพรายนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT5 เล็งเห็นถึงความอันตรายของคนร้ายรายนี้ เพราะไม่เพียงแต่หลอกลวงทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน แต่ยังทำให้ผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆต้องรับเคราะห์กรรมที่ไม่ได้ก่อไปด้วย ส่ง พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ พร้อมทีมสืบสวนชุดสืบนครบาล และ PCT5 ลงพื้นที่สืบสวนเป็นเวลาหลายวันกระทั่ง วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 19.15 น. สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยเอกชัย 47 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร

  ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า “ตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เดิมทีประกอบอาชีพขายเสื้อผ้าแฟชั่นตามงานกาชาดประจำปีตามจังหวัดต่างๆ ต่อมาเมื่อมีสถานการณ์โควิดระบาดจึงเปลี่ยนมาประกอบอาชีพขายอาหารอีสานในพื้นที่จังหวัดยโสธร ก่อนจะหันมาเปิดรับพรีออเดอร์กระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Longchamp KARREN , รองเท้า ยี่ห้อ NIKE , ADIDAS , NEWBALANCE , VANS สินค้า IT อื่นๆ เช่น โทรศัพท์ ไอโฟน ผ่านอินสตาแกรม ในชื่อร้าน hherbrandname , jannbrandname , nunebrandname , nn.umim , brandnamenoonn , brandnamebynoonn , nnoonshopz , Hiwtamhang , bynnoonn , nncrabhiw , nc.hiw  แต่เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงิน หมุนเงินไม่ทันใช้จ่ายในครอบครัว จึงนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่พรีออเด้อมาใช้ก่อนในช่วง 1 ปี แรก ต่อมาช่วงปีที่ 2 ที่ก่อเหตุ จึงคิดวิธีการเพื่อที่จะไม่ใช้บัญชีธนาคารของตนรับเงินจากลูกค้าโดยตรง คือ เมื่อมีลูกค้าสั่งกระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์ IT ตนจะส่งเลขที่บัญชีธนาคารของร้านค้าอื่นที่ตนจะใช้บริการ หรือสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เช่นกัน  เช่น ร้านเสริมสวย ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านพวงมาลัยเงินสด ไปให้เหยื่อกลุ่มที่ต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้า อุปกรณ์ IT โอนเงิน จากนั้นเมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้บัญชีร้านค้านั้นๆ แล้ว ตนจะขอสลิปโอนเงินนั้นแล้วนำไปส่งให้ร้านค้าที่ตนใช้บริการและแจ้งร้านค้านั้นว่า พี่สาว หรือ พี่ชาย ของตน เป็นคนโอนเงินไปให้แล้ว เมื่อร้านค้าได้เงินเสร็จเรียบร้อยก็จัดส่งสินค้าให้ตน และตนก็จะทำการบล็อคช่องทางติดต่อกับลูกค้าที่สั่งซื้อกระเป๋าแบนด์เนม รองเท้า อุปกรณ์ IT ที่ผ่านมาก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2564 มูลค่าความเสียหายต่อราย รายละ 6,000 – 8,000 บาท มีลูกค้าหลงเชื่อสัปดาห์ละ 3 – 4 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,000,000 บาท”

หลังเสร็จสิ้นการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข ภ.จว.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และประสานให้พนักงานสอบสวน สภ.บางเลน ภ.จว.นครปฐม และ สภ.วังน้อย ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อายัดตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
       

   ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อย่างเห็นแต่สินค้าที่มีราคาถูกกว่าราคาตามท้องตลาดที่ควรจะเป็น ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.