ผงะ!ชาวบ้านออกหาดักปลาไหล เห็นฝูงแมลงวันตอมผิดสังเกต พอเข้าไปดูพบศพลอยอืด

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เวลา18.00น. พ.ต.ท.พชร จันศีรี ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังโป่ง ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านฯ ว่าขณะที่ นายสุบิน สีหะวงค์ อายุ63ปี อาศัยอยู่เลขที่ 70/1 หมู่5 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้ออกไปหาดักปลาไหลตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วได้สังเกตเห็นฝูงแมลงวันจำนวนมาก บินตอมอะไรบางอย่างอยู่ในลำคลอง จึงเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ต้องตกใจแทบช๊อค เมื่อพบศพปริศนา ลอยอืด คว่ำหน้าอยู่ในน้ำ จึงรีบวิ่งกลับไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลวังโป่ง และกู้ภัยวังโป่งรวมใจ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงภายในลำคลองวังหิน-วังพลับ พบศพชาย ไม่สวมเสื้อ ลอยอืดคว่ำหน้า ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จึงได้จุดธูปกำใหญ่ เพื่อดับกลิ่น และช่วยกันนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง ทำการชันสูตรพลิกศพ ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย ทราบชื่อผู้ตายต่อมา คือ นายเลย จันดาหาร อายุ57ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่5 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีแดง ทะเบียน กบม 146 เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นของผู้ตาย จอดอยู่ใต้ก่อไผ่ โดยทางญาติต่างไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงเตรียมนำร่างไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา และจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในคืนนี้เลย

เบื้องต้น ทราบว่า นายเลย จันทร์ดาหาร อายุ57ปี ผู้ตาย มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมักออกหาจับสัตว์น้ำ ทั้งดักข่าย หาปลา งมหอย ดักปลาไหล เพื่อนำมาเป็นอาหาร และแบ่งขายสร้างรายได้ เนื่องจากอาศัยอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว จึงไม่มีใครเอ๊ะใจที่หายตัวออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวาน กระทั่งมีคนหาดักปลาไหล มาพบร่างลอยขึ้นอืดอยู่ในลำคลอง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ดังกล่าว

สอบถาม นางดำเนิน จูมทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เผยว่า วันนี้ ลุงสุบิน แกมาหาดักปลาไหล แล้วเห็นผิดสังเกต เห็นฝูงแมลงวันบินตอมเต็มไปหมด และมีรถจอดอยู่ จึงเดินเข้าไปดู ก็พบศพขึ้นอืด ลอยคว่ำหน้าอยู่ ทีแรกก็ไม่รู้ว่าใคร ประกอบกับช่วงนี้ แถวบ้านมีงานบวช จึงต่างช่วยกันเตรียมงาน ไม่ได้พากันเอ๊ะใจว่ามีคนหาย จึงรีบมาแจ้งให้ผู้ใหญ่รับทราบ
ด้าน นายสุบิน สีหะวงศ์ อายุ 63 ปี เล่าว่า ตนเองออกมาหาดักปลาไหล พอเดินมาถึงแหล่งน้ำ ก็พบศพลอยอืด เลยรีบกลับไปแจ้งผู้ใหญ่ ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นศพใคร จึงไปสอบถามในหมู่บ้าน ว่ามีใครสูญหายบ้าง ก่อนพากันออกตรวจสอบ

ขณะที่ นางปวีณา ปัญญาพวก อายุ 62 ปี พี่สาวคนตาย เล่าว่า เจอครั้งสุดท้าย ตอน4โมงเย็นเมื่อวาน น้องมาเอาน้ำมัน และขอเงิน 100 บอกว่าจะไปดักข่าย ซึ่งปกติเขาก็มักมาที่นี่ประจำ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเจอในสภาพนี้ ก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ปกติผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว อยู่คนละหลังกัน ก็ไม่มีลางสังหรณ์อะไร ยังเดินไปดูประตูบ้าน ก็พบว่าล๊อค สงสัยว่าออกไปทำงานรับจ้างถางหญ้า ก็เลยทำให้ไม่เอ๊ะใจเวลาหายไปแบบนี้

เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว จ.เพชรบูรณ์