กองปราบรวบมือสปาต้าโหด กระหน่ำฟันคอคู่อริดับ หนีคดีกว่า 18 ปี
1 min read ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบมือสปาต้าโหด กระหน่ำฟันคอคู่อริดับ หนีคดีกว่า 18 ปี
พบเป็นคนร้ายตามประกาศสืบจับ ตร.ปี พ.ศ.2566 ลำดับที่ 184
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ, ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี, ร.ต.ท.พัทธ์ดนย์ พูลพิพัฒน์ รอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายธวัชชัย หรือโอมฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดสงขลา ที่ 41/2549 ลง 16 มกราคม 2549 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย”
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.49 เวลาประมาณ 15.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ได้รับแจ้งแจ้งเหตุคนฆ่ากันตาย เหตุเกิดที่บริเวณ ถนนสายระโนด – สงขลา หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสิงหนคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ตายชื่อ นายอภิสารฯ อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ สภาพศพมีบาดแผลถูกเฉือดด้วยของมีคมที่บริเวณลำคอ หลอดลมขาด ปากขาด ศีรษะด้านหลังมีรอยถูกฟัน ขมับขวาถูกฟัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกับนายธวัชชัย หรือ โอมฯ และนายจักรี หรือเอกฯ สองพี่น้อง หลังจากนั้นคนร้ายทั้งสองได้ร่วมกันใช้มีดสปาต้า กระหน่ำฟันไปตามลำตัว และศีรษะ ของผู้ตายหลายแผลจนถึงความตาย แล้วหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายทั้งสอง
ซึ่งจากพฤติการณ์การก่อเหตุที่ทารุณโหดร้าย และนายธวัชชัยฯ ได้ใช้ความชำนาญพื้นที่ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาได้หลายปี ตร.จึงขึ้นบัญชีหมายจับดังกล่าว ให้อยู่ในประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ลำดับที่ 184
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบทราบว่า นายธวัชชัยฯ ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล จึงได้วางแผนเข้าทำการปิดล้อมจับกุม โดยเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณบ้านหลังหนึ่งที่เชื่อว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ จึงได้วางกำลังปิดล้อมบริเวณโดยรอบ และกดดันให้นายธวัชชัยฯ ออกจากบ้าน
มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งนายธวัชชัยฯ ยอมจำนนและเดินออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการแสดงหมายจับและจับกุมตัวนายธวัชชัยฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ภ.จว.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม นายธวัชชัยฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ ที่เจ้าหน้าที่แสดงให้ดูจริง และรับว่าได้ร่วมกันนายจักรี หรือเอกฯ พี่ชายใช้อาวุธมีดสปาต้า กระหน่ำฟันผู้ตายจนเสียชีวิตจริง จากนั้นได้หลบหนีไปด้วยกันไปพักอาศัยอยู่ที่ จ.พังงา และในปี พ.ศ.2551 ได้ไปก่อเหตุ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส อีกหนึ่งคดี ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายธวัชชัยฯ ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด