เจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี คนร้ายเสียชีวิต 2

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 เวลา 04.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมปัตตานี ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านปาแต ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนเพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ในขั้นตอนการปฏิบัติ พลโท ศานติ ศกุนตนาค มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส เน้นการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด รวมทั้งใช้ความพยายามในการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายยอมออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามหลักกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และเครือญาติ ในการเป็นผู้ช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งพยายามวิ่งฝ่าวงล้อมเพื่อหลบหนี จึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ภายหลังการปฏิบัติพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ

1. นายแวอูเซ็ง ดือราเฮ็ง อายุ 37 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย ที่สำคัญคือ เหตุปล้นร้านทองสุธาดา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562, เหตุกราดยิงร้านข้าวแกงปลาดุก เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ในพื้นที่ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย, เหตุยิง อส.หญิง ประภาพร แก้วมณีรัตน์ เสียชีวิต เมื่อ 2 เมษายน 2557 และเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย ในพื้นที่ บ้านดอนนา ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 11 กันยายน 2561
2. นายรอกิ สิเดะ อายุ 32 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย เหตุลอบวางเพลิงและวางระเบิดร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ปตท.ดอนยาง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2559, เหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองจิก บริเวณ บ้านท่ายาลอ ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และเหตุลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก ในพื้นที่ บ้านโคกกอ หมู่ที่ 8 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 17 สิงหาคม 2566

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธของคนร้ายจำนวน 2 กระบอก ประกอบด้วย ปืนเล็กยาว M 16 ตัดสั้น และปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร พร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง โดยจะได้นำไปตรวจสอบหาที่มารวมทั้งประวัติการก่อเหตุต่อไป สำหรับเจ้าของบ้านซึ่งให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรงเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปสอบถาม หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาให้ที่พักพิงและให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ข้อมูลผู้ก่อเหตรุนแรงจนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายเพื่อเป็นการยับยั้งการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งหากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ หรือ หมายเลขสายตรง กอ.รมน.ภาค 4 สน. หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 โทร 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง