ตร.เร่งล่าโจ๋ยิง-ปาระเบิดป่วนชาวบ้านย่านสายไหม หลังป้าวัย 71 ร้องผ่านสายไหมต้องรอด ช่วย

ตร.เร่งล่าโจ๋ยิง-ปาระเบิดป่วนชาวบ้านย่านสายไหม หลังป้าวัย71 ร้องผ่านสายไหมต้องรอด ช่วย เหตุหลานพาแฟนสาวผู้ก่อเหตุซ้อนท้ายรถ จยย.เกิดล้มบาดเจ็บ พบก่อเหตุต่อเนื่องท้องที่บางเขน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่16 ส.ค.ที่ สน.สายไหมนายนิรันดร์ เกแง้ว ทีมงานสายไหมต้องรอด พานางลิ้ม แจ่มสิน อายุ 71 ปี และครัวครัวเดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สน.สายไหม หลังถูกกลุ่มคนร้ายบุกปาระเบิดปิงปอง และใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านรวมถึงฟันและทุบรถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าบ้านย่านเพิ่มสิน เสียหาย 2 คัน เชื่อคนคุ้นเคยกบับมาก่อเหตุปมหลานชายขัดแย้งอดีตเพื่อนที่เคยมากินนอนที่บ้าน หวั่นคนร้ายกลับมาก่อนเหตุซ้ำ

ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เวลาประมาณ 00.11 น. จะเห็นรถจักรยานยนต์ 4 คัน 8 คน ขับเข้ามา ลานกว้างใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ 2 คนจะเดินลงจากรถเข้าไปยืนที่สะพานข้ามคลองออเวงินแล้วปาระเบิดปิงปองเข้าไปในบ้าน ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี

ต่อมา วันที่ 13 สิงหาคม เวลาประมาณ 05.40 น. กล้องวงจรปิดจับ รถจักรยานยนต์ จอดรออยู่บริเวณกลางสะพานข้ามคลองออเงิน แล้วมีเสียงตะโกนโวยวายก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด และก่อนที่คนร้ายจะขับรถออกไปได้ยิงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด

ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม จะได้ยินเสียงตะโกนด่าทอกัน โดยมีเสียงพูดว่า กด กด กด กด เลย จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด และมีเสียงพูดชึ้นมา ” เบาๆๆ ” ” โถ่ไอ้สัตว์โต้ ” จากนั้น มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด จากนั้นรถคนร้ายได้ขับผ่านหน้ากล้องโดยรถคันก่อเหตุมาด้วยกัน 3 คน คนซ้อนท้ายหลังสุดสวมใส่เสื้อสีแดง

นายนิรันดร์ เกแง้ว ทีมงานสายไหมต้องรอด กล่าวว่า วันนี้มาลงพื้นที่ซอยเพิ่มสิน 50 หลังผู้เสียหายร้องมายังเพจสายไหมต้องรอดว่ามีกลุ่มคนร้ายมาก่อเหตุทำลายทรัพย์สินและใช้ปืนยิงใส่บ้าน ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลพบว่าเคยมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ห่างกันไม่มาก และจากการตรวจสอบพื้นที่พบร่องรอยของเจ้าหน้าที่มาเก็บปลอกกระสุนปืนรวมถึงความเสียหาย ของรถจักรยานยนต์ และได้ทราบถึงการสอบสวน ของทางเจ้าหน้าที่พบว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงวัยรุ่นสองคนในพื้นที่บางเขน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้ เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุทั้ง 2 พื้นที่คล้ายกัน ในส่วนเรื่อง ที่ผู้เสียหายยังมีความหวัดกลัวเรื่องความปลอดภัยเบื้องต้นได้ประสานไปยังสน. สายไหมให้ส่งจนพี่มาตรวจตราบริเวณบ้านของผู้เสียหายให้บ่อยขึ้น

จากการลงพื้นที่ของเพจสายไหมต้องรอด พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณทางเดินริมคลองที่มีความกว้างประมาณ 1 เมตร พบร่องรอยที่เจ้าหน้าที่นำสีสเปย์มาวงจุดที่พบปลอกกระสุนจำนวน 2 จุด จุดแรกห่างจากบ้ามาประมาณ 50 เมตร พบ 2 วง ห่างออกมาอีกประมาณ 10 เมตรพบอีก 1 วง

ด้านนางลิ้ม แจ่มสิน อายุ 71 ปี เล่าว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 05.15 นาทีของวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงดัง คล้ายมีคนทำลายของอยู่หน้าบ้าน จึงออกไปดู พบคนร้าย 2 คนมาที่หน้าบ้านและกำลังทุบรถ จากนั้นตัวเองได้ตะโกนไปว่ามาทำอะไร มาทำอะไรกันว่ะ คนร้ายได้ตอบกลับมา แล้วมึงจะทำไม ตัวเองจึงด่ากลับไป จากนั้นคนร้ายได้เดินออกไปพร้อมกับยิงปืนตลอดทางจำนวน 4 นัด ก่อนจะมีรถมารอรับอยู่บนสะพาน ซึ่งระหว่างกลุ่มคนร้ายกำลังเดินออกไปได้สวนทางกับหลานสาวซึ่งจำหน้าหนึ่งในคนร้ายที่มาจอดรถรออยู่บนสะพาน เป็นคนที่เคยรู้จัก เพราะเป็นเพื่อนหลานชายที่มากินมานอนอยู่ที่บ้านนานในช่วงที่เรียนอยู่ ตอนนั้นหลานไม่รู้ว่ามีเหตุอะไรเลยไม่ได้สอบถามจากนั้นคนร้ายก็ขับรถออกไป

ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ มีคนร้ายขับรถมา 4 คัน มาจอดบนสะพานก่อนปาระเบิดปิงปองไปที่โต๊ะสนุ๊ก ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร จากข้อมูลเชื่อว่าคนร้ายที่มาปาระเบิดเป็นคนเดียวกับที่มาก่อเหตุยิงที่หน้าบ้าน เพราะที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยมีปัญหากับใครมีแต่เรื่องที่หลานชาย เคยมีปัญหากับผู้ต้องสงสัยรายนี้เรื่องที่หลานชาย ที่คอยไปรับไปส่ง แฟนสาวของผู้ต้องสงสัยก่อนจะประสบอุบัติเหตุจนตกรถทำให้แฟนสาวได้รับบาดเจ็บ ซึ่งที่ผ่านมามีการต่อว่ากันหลายครั้งจนกระทั่งแฟนสาวของผู้ต้องสงสัยได้เลิกรากันไป แต่กลับมาโทษว่าสาเหตุที่ต้องเลิกราเนื่องจากหลานชายเป็นต้นเหตุ แต่เรื่องผ่านมาเป็นปีแล้ว

หลังเกิดเหตุการณ์ตอนนี้ตัวเองกลัวเรื่องความปลอดภัย คนในครอบครัวโดยเฉพราะหลาน อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยจับคนร้ายให้ได้หากจำไม่ได้ก็อาจจะทำให้เขาได้ใจกลับมาก่อเหตุซ้ำ

มีรายงานว่าจากแนวทางการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่พบเหตุการณ์ทั้งสองพื้นที่เวลาห่างกันประมาณ 15 นาที โดยมาก่อเหตุยิงในพื้นที่สายไหมช่วงเวลาประมาณ 05.40 และไปก่อเหตุในพื้นที่ สน.บางเขน ช่วงเวลาประมาณ 05.55 นาที โดยทั้งสองเหตุการณ์ กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพลักษณะรถจักรยานยนต์และคนซ้อนท้ายหลังสุด ที่สวมใส่เสื้อสีแดง ตรงกันทั้ง 2 เหตุการณ์