ตำรวจบุกทลาย “แก๊งไข่หวง” 4 เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน ยัดไอซ์ใน “เพลารถ”ส่งข้ามชาติคาบ้านหรูกลางกรุง
1 min read “แก๊งไข่หวง” ขบวนการชาวไต้หวันสุดแสบ 4 เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน หอบเสื้อผ้าข้ามน้ำข้ามทะเลแฝงตัวในประเทศไทย ตั้งเป็นฐานทัพลำเลียงยาเสพติดส่งขายทั้งในไทยตาม KTV ชาวจีน และส่งออกนอกทางเรือ แผนประทุษกรรมสุดแนบเนียน “ซุกเพลารถ”ตบตาการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่มาได้หลายครา “สุดซวย” เจอของจริง “บิ๊กป๋อ” พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. มือ 1 ปราบปรามยาเสพติดได้รับข้อมูลกรณีขบวนการยาเสพติดข้ามชาติก่อนสั่งการ “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุดศอ.ปส.ตร.ที่ 5 มาเสริมทัพตามรอยกว่า 3 เดือนจนทราบว่าเป็น“เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน” ชื่อแก๊งไข่หวง พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งมือดีสะกดรอยจนถึงเซฟเฮ้าส์ลับในหมู่บ้านหรูกลางกรุง ฐานทัพบัญชาการรับ-ส่งออกยาเสพติดของแก๊งไข่หวงชาวไต้หวัน ก่อนวางกำลังซุ่มโปร่งจนพบลางบอกเหตุเตรียมเคลื่อนย้ายของกลางลงเรือ พล.ต.อ.ชินภัทรฯ จับตาฤกษ์ยามดี สี่สูญพูลสวัสดิ์ จังหวะได้ สั่งลุยบุกเข้าตรวจค้น พบแท่งเพลารถนอนเกลื่อนเซฟเฮ้าส์ 14 แท่ง ก่อนลุยผ่าแท่นเพลาพบกัญชาและยาไอซ์ทะลักออกมาเพียบ บุกขยายผลต่อจนเจอรังผลิด “แฮ็ปปี้วอเตอร์” ก่อนจับกุมผู้ต้องหาทั้งขบวนการได้ทั้งสิ้นกว่า 7 คน ล้วนเป็น “ตัวเด็ด” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว พิสูจน์ดรีกรีมือ 1 ของบิ๊กป๋อ ไว้ลายก่อนเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค. 66 ที่จะถึงนี้
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ท. คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชัย สมสกุล ผกก. กก.สส.บก.น.1 , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.บดินทร์ ร้อยกรอง , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ท.ทศพร พวงทอง , พ.ต.ท.เรวัช ประจวบสุข , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ธนัชพงศ์ วัชรราศีวิทย์ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น เจ้าหน้าที่ชุด ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5 , สืบนครบาล และเหล่านักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 7 คน คือ
1. Mr.Chen You Ning (นายเฉิน ยู่ หนิง) อายุ 34 ปี สัญชาติ ไต้หวัน ฉายา ขาลาย
จากการตรวจสอบ Mr.Chen You Ning เป็นตัวการใหญ่ของขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศไต้หวัน บุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ยาเสพติด” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว เคยถูกตำรวจไต้หวันจับกุมเมื่อ 7 เดือนก่อนเป็นที่ แต่ได้ประกันตัวชั้นศาลและหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย
2. Mr.Lee Ming Chang (นายหลี่ หมิง เจิ้น) อายุ 26 ปี สัญชาติไต้หวัน ฉายาเบาหวิว
3. Mr.Tseng, Yen-Ming (เซิง เยี่ยน หมิง) อายุ 31 ปี สัญชาติ ไต้หวัน
และเป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว
4. .Mr.Lin, Che-Cheng (หลิน เฉอ เฉิง) อายุ 24 ปี สัญชาติไต้หวัน
และเป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว
5. Mr.Chen,Yi-Wen (เฉิน ยี่ เหวิน) อายุ 23 ปี สัญชาติไต้หวัน
และเป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ยาเสพติด ฟอกเงิน ฉ้อโกง และอบายมุข” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว
6. Mr.Chu,Chun-Yen (ชู ชุน เยน) อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน
และเป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว
7. น.ส.อภิญญา อุดม อายุ 24 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่ 377 ม.9 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3-7 ว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แฮปปี้วอเตอร์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ไฟว์ไฟว์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
ตรวจยึดของกลางได้อีก 8 รายการ
แท่งเหล็กเพลากลางรถบรรทุก จำนวน 17 แท่ง (ซึ่งใช้สำหรับบรรจุซุกซ่อนยาเสพติดของกลาง)
ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 1,057 กรัม
กัญชา จำนวน 10 กิโลกรัม
เครื่องมืออุปกรณ์เพื่อตัดแปลงท่อนเพลาเพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติด กว่า 15 รายการ
ยาไฟว์ไฟว์ จำนวน 29 เม็ด
เครื่องปั่นใช้ผสมยาเสพติด จำนวน 2 เครื่อง
เคตามีน จำนวน 17 กรัม
ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แฮปปี้วอเตอร์) จำนวน 1 ซอง โดยผู้ต้องหาที่ 1-2 ถูกจับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 89/19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพ
โดยผู้ต้องหาที่ 3-7 ถูกจับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 111/30 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์กล่าวคือ ช่วงเที่ยงวันของวันธรรมดาวันหนึ่ง ในเดือน ส.ค.66 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ได้รับแจ้งจากสายลับ”กลุ่มชายชาวไต้หวันสักลาย” ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติซึ่งเจ้าตัวลุยงานปราบปรามยาเสพติดมาทั้งชีวิต จนปัจจุบันมีดีกรีมือปราบยาเสพติดอันดับ 1 แม้จะเป็นห้วงสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ก็ไม่สามารถทานจิตวิญญาณ “นักบู๊” หวนนึกความรู้สึกในวัยหนุ่มกลับมาอีกครั้ง โทรหาหน้าห้อง “ยกเลิกทุกภารกิจ” ก่อนต่อสายสั่ง “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งทีมตามสะกดรอย จนพบ “แท่งเพลา” ทั้งสิบกว่าแท่งจนตามรอยจนได้เรื่อง “เจอตัวเป้ง” เป็นขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติระดับ “4ราชายาเสพติดไต้หวัน” ชื่อแก๊งไข่หวง ที่ถูกทางการไต้หวันออกหมายจับตามล่าจึงหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งมือดีตามรอยไปถึง “เซฟเฮ้าส์” ในหมู่บ้านหรูใจกลางกรุง ที่เป็นฐานทัพบัญชาการรับ-ส่งออกยาเสพติดของแก๊งไข่หวง ก่อนวางกำลังซุ่มโปร่งแอบดูจนพบแท่งเพลา 17 แท่งห่อแร็บเตรียมส่งออกนอก กระทั่งช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 18 ส.ค. 66 ชุดซุ่มโปร่งพบ “ลางบอกเหตุ” ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแท่งเพลาไปขึ้นเรือขนส่งทางทะเล กระทั่งเวลา 08.10 น. ถึงฤกษ์ยามดี สี่สูญพูลสวัสดิ์ จังหวะได้ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ พากำลังนำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีที่ 535/2566 ลงวันที่ 17 ส.ค. 66 บุกเข้าเซฟเฮ้า บ้านเลขที่ 89/19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพ พบ Mr.Lee Ming Chang และ Mr.Chen You Ning มีพิรุธอึกๆอักๆ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ไม่รอช้าสั่ง “หั่น” ท่อนเพลา ก่อนพบของกลางยาไอซ์และกัญชาร่วงออกมาจำนวนมาก และยังพบอุปกรณ์การเชื่อมเหล็ก หินเจีย และอีกหลายรายการที่มีไว้เพื่อตัดแปลงท่อนเพลาเพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติดก่อนส่งออกไปยังประเทศไต้หวัน พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ขยายผล Mr.Chen You Ning หัวหน้าขบวนการก่อนนำพาเจ้าหน้าที่ไปบุกไปที่ บ้านเลขที่ 111/30 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็น “รัง” ของแก๊งไข่หวงที่ใช้เป็นฐานทัพผลิตยาแฮปปี้วอเตอร์ และใช้เป็นพื้นที่ “ปาร์ตี้ยา” พบของกลางยาเสพติด ยาไอซ์ , เคตามีน ,ไฟว์ไฟว์ และ แฮปปี้วอเตอร์ จำนวนหลายรายการ รวมไปถึงของจำพวก ซองเปล่า , เครื่องปั่น เพื่อใช้ใส่ยาแฮปปี้วอเตอร์ในจำนวนมาก พบและจับกุมผู้ต้องหาในบ้านได้อีกกว่า 5 ราย ขณะพยายามวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ขึ้นชั้นพบเพื่อทำลายพยานหลักฐานในบ้าน โดย พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาควบคุมขยายผลด้วยตัวเองก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นจับกุม Mr.Chen You Ning หัวหน้าขบวนการแก๊งไข่หวง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เมื่อ 7 เดือนก่อน ตนได้ถูกตำรวจไต้หวันจับกุมที่ประเทศไต้หวันและออกข่าวดังเพราะเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ แต่ได้จ้างทนายสู้คดีและประกันตัวออกมา ก่อนจะหนีออกนอกประเทศไต้หวันด้วยการแอบขึ้นเรือสินค้าเป็นเวลากว่า 15 วัน จนถึงประเทศกัมพูชาจากนั้นจึงค่อยเดินทางเข้ามาตั้งฐานทัพใหม่ในประเทศไทย จนทางการไต้หวันได้ออกหมายจับและตามล่าตน โดยปัจจุบันตนมาตั้งฐานทัพที่ประเทศไทยและอยู่ระหว่างค้นหาวิธีการที่จะส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศไต้หวัน โดยมีผู้ร่วมขบวนการชื่อว่า เสี่ยวผ้าง ซึ่งอยู่ในประเทศไต้หวันและคอยรอรับยาเสพติดจากตนที่ส่งไปจากประเทศไทย ตนได้เห็นจากข่าวเรื่องการลักลอบขนส่งยาบ้าและเฮโรอีนโดยทำการผ่ายัดลงไปในเพลารถและเชื่อมเพื่อปกปิดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย จึงลองนำมาใช้โดยตนนั้นได้ขับรถไปซื้อเพลารถที่จังหวัดชลบุรี โดยยาเสพติดที่หามานั้นซื้อมาจากเพื่อนชาวไต้หวัน ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 1 กก. ในราคา 230,000 บาท และซื้อกัญชา มาจากร้านค้าทั่วไปในกรุงเทพฯ จำชื่อร้านไม่ได้ โดยซื้อมาจำนวน 40 กก. ในราคา 70,000 บาท โดยจะชำระเงินกันผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม Cryptocurrency สกุลเงิน usdt หลายแอพพลิเคชั่น” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “คนร้ายกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกแก๊งขนส่งยาเสพติดข้ามแดนรายใหญ่ ที่ทางการประเทศไต้หวันต้องการตัว จากการขยายผลหัวขบวนการรายนี้ถูกตามล่าจากทางการไต้หวัน จึงหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติเพื่อกบดานและใช้ประเทศไทยเป็นฐานสร้างเครือข่ายในการขนส่งยาเสพติดกลับไปยังประเทศไต้หวัน และล่าสุดแก๊งนี้กำลังทดลองเพื่อส่งออกยาไอซ์แต่ทำไม่สำเร็จถูกจับกุมเสียก่อน หลังปฏิบัติการนี้ทางการเจ้าหน้าที่ไต้หวันได้ประสานงานมาที่ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในทันทีเพราะผู้ต้องหาในขบวนการนี้เป็นที่ต้องการตัวของทางการไต้หวันเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะขยายผลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันให้ถึงที่สุด เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาความมั่นคงระดับชาติที่หยั่งรากฝังลึกในสังคมไทยและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วนลำดับแรกและสั่งการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทุกมิติ และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ Facebook เพจ “สืบนครบาล IDMB” ตลอด 24 ชั่วโมง”