นศ.ช่างอุตสาหกรรม ย่านรามคำแหงไล่ยิงคู่อริมหาลัยเดียวดับอนาถ
1 min readกรุงเทพมหานคร-นักศึกษาช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ขับขี่ จยย.ไล่คู่อริสถาบันเดียวกัน กระหน่ำยิง 4 นัดเสียชีวิตคาหน้าบ้าน ยานรามคำแหง
วันนี้ (25 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดภายในซอยรามคำแหง 58/3 หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิสยามร่วมใจ ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 40/103 พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ชายโครงด้านขวา 1 นัด ข้างลำตัวด้านขวา 1 นัด และช่วงอกด้านขวา อีก 1 นัด นอนหมดสติอยู่อาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทำการปั้มหัวใจต่อเนื่อง ก่อนนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรามคำแหงเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษา และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นาย พงศ์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปีนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ปวช.ชั้นปีที่ 2 ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้าน นางขวัญจิตรา ศุภธนกิจ อายุ 48 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองจะไม่บอกว่าลูกชายเป็นเด็กคนดี แต่ไม่เคยหาเรื่องใคร สมัยเรียนมัธยมต้น ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร พอจบ ม.3 นายจตุพงศ์ หรือ ราม ลูกชายของตน เข้าเรียนสายอาชีวะ ที่สถาบันแห่งหนึ่ง(เทคโนโลยีอุตสาหกรรมกรุงเทพ) ซึ่งเรียนอยู่ ปวช.2 ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่ก็เคยเตือนประจำว่าให้ระมัดระวังตัว
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ลูกชายของตนเองมีปัญหากับ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้น ปัจจุบันเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง โดยเข้าใจว่านายจตุพงศ์ ลูกชายของตนเองขับรถมอเตอร์ไซค์ไล่ แต่น่าจะเป็นการเข้าใจผิด จึงมีการนัดเคลียร์กัน ซึ่งกลายเป็นว่าลูกชายของตนเองถูก นายนิว คู่กรณี ใช้มีดฟันที่บริเวณมือและหลัง ได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส มือเย็บแผลประมาณ30 เข็ม โดยมีการเข้าแจ้งความกับทางเจ้าที่ตำรวจ และพูดคุยไกล่เกลี่ยกับทางญาติผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางญาติผู้ก่อเหตุ ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท ซึ่งตนเองอยากให้เจ้าตัวผู้ก่อเหตุมาขอโทษ แต่ว่า ก็ไม่เคยได้รับคำขอโทษ เลยคิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบแล้ว สุดท้ายเพิ่งมารู้ได้ไม่กี่วัน ว่า นายนิว ฝากเพื่อนมาบอกว่า ไม่ยอม และจะเอาเงิน 30,000 บาทคืน ซึ่งไม่รู้ว่า เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ
จนกระทั่งวันนี้ ตนเองนั่งเย็บผ้าอยู่ในบ้าน ช่วงเวลาประมาณ 14:20 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกชายกลับจากโรงเรียนพอดี ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์พุ่งชนประตูดัง พร้อมได้ยินเสียงอาวุธปืน ดัง 4 นัด ตอนนั้นวิ่งไปก็เห็นลูกชายนอนลงกับพื้นแล้ว ขณะที่ผู้ก่อเหตุซึ่งคนที่ซ้อนท้ายมา ลงจากรถจะใช้อาวุธปืนยิงซ้ำ ตอนนั้นตนเองขอร้องผู้ก่อเหตุ บอกว่า พอแล้ว อย่ายิงลูกแม่อีกเลย ตอนนั้นผู้ก่อเหตุทำท่านิ่ง ก่อนที่จะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก เนื่องจากมีลูกชายคนเดียว ก็หวังพึ่งว่าจะให้เป็นเสาหลักของบ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความสงสัยว่าจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เก่า ซึ่งตนเองมองว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจมาก่อเหตุ โดยดูจากการแต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ต้องเตรียมการไว้ก่อนแน่นอน ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สุดท้ายอยากจะบอกกับลูกชายว่า รักเขา รักมาก ซึ่งเชื่อว่า เขารู้ดี ว่าตนเองรักลูกมากขนาดไหน เนื่องจากเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และค่อนข้างผูกพันกับลูกชายมาก ก็อยากให้เขาไปสบายไม่ต้องเป็นห่วง