สืบนครบาลบุกรวบ “อาหลง” ผู้กำกับไลฟ์สด กิจกรรมบนเตียง สั่งนักแสดง ทำท่าต่างๆ ส่งขายต่างประเทศ
1 min read
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เข้ามากระทำความผิดทุกรูปแบบในประเทศไทย สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนและทำลายภาพลักษณ์และกระทบความมั่นคงของชาติ โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาล ร่วมกับชุด นักเรียนสืบสวนรุ่น 112 ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า มีขบวนการชาวจีนเข้ามาในประเทศไทย ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการแสดงถ่ายทอดไลฟ์สดกิจกรรมบนเตียงส่งผ่านแอปพลิเคชั่นของชาวจีนส่งกลับไปยังประเทศจีน ซึ่งลูกค้าที่สนใจจะเข้ารับชมจะต้องจ่ายเงินสมัครเป็นสมาชิกเพื่อเข้าดูการถ่ายทอดไลฟ์สดดังกล่าว ผู้เข้าชมจะมีการแสดงความคิดเห็นคอมเม้นท์เข้ามาระหว่างการถ่ายทอดไลฟ์สด โดยมีนายอาหลงฯ (ผู้ต้องหาที่จับกุม) เป็นผู้ควบคุมการแสดงไลฟ์สดและเป็นล่ามแปลภาษาพูดโต้ตอบเป็นภาษาจีน และสั่งการให้นักแสดงทำท่าทางต่างๆ โดยมีหญิงสัญชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการและเจ้าของเงินทุน แต่ต่อมาได้เดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุดนักเรียนสืบสวนรุ่น 112 รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นตัวการรายสำคัญซึ่งยังคงหลบหนีความผิดในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.66 เวลาประมาณ 20.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ประกอบด้วย พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติ และ นักเรียนสืบสวนคดีอาญา รุ่น112 ได้ร่วมกันได้ร่วมกันจับกุมตัว
นายสมพงษ์ หรืออาหลง อายุ 34 ปี ที่อยู่ต.ห้อยผา อ.แม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่598/2565 ลงวันที่ 13ธันวาคม 2565
ในความผิดฐานซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต
มีไว้ นำเข้าหรือยังให้พาไป หรือทำให้แพร่โดยหลายประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษฌา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก ร่วมกันประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุกับสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งช้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และร่วมกันเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่า เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 14(4)
โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถ แมนชั่นแห่งหนึ่ง ถนนลาดพร้าว 80 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้นห้องพัก D801 ภายในอาคารชุดอาคาเดีย บีช คอนติเนนทอล ม.10 ซ.ทัพพระยา 9 ถ.ทัพพระยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบกำลังแสดงกิจกรรมอยู่บนเตียงนอนภายในห้อง ถ่ายทอดไลฟ์สดผ่านทางแอปพลิเคชั่นของคนจีนไปยังประเทศจีน โดยมีนายอาหลง เป็นผู้ควบคุมการถ่ายทอดไลฟ์สดโดยใช้โทรศัพท์มือถือจำนวนหลายเครื่องเป็นอุปกรณ์ในการถ่ายทอดไลฟ์สด และพบมีนักแสดงรอการแสดงไลฟ์สดรวมกันอยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุดังกล่าว และได้ตรวจพบอุปกรณ์การไลฟ์สด เช่น ชุดขาตั้งโทรศัพท์มือถือ, โคมไฟวงแหวนพร้อมขาตั้ง, กระดานไวท์บอร์ด แสดงวันที่ในการถ่ายทอดสด, เจลหล่อลื่นยี่ห้อ DUAI , ดิลโด้ , ยาซิลเดนาฟิล ยี่ห้อ ซิเดก้า จำนวน 3 กล่อง, ยาไวอากร้ายี่ห้อ KAMAGRA (ชนิดเจล), เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต (Router) สมุดบันทึกจำนวนยอดคนดูถ่ายทอดสดของแต่ละคู่แสดง, แส้ , สายรัดปาก ซึ่งอยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุ จึงยึดไว้เป็นของกลาง
และสืบสวนขยายผลทราบว่า นายสมพงษ์ (ผู้ต้องหา) เคยทำหน้าที่เป็น ล่ามแปลภาษาในการสั่งนักแสดงให้ทำตามคำสั่งของลูกค้า และเป็นผู้ควบคุมการถ่ายทอดไลฟ์สดผ่านแอปพลิเคชั่นกลับไปยังประเทศจีน ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวมีลักษณะเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในรัฐหนึ่ง (ประเทศไทย) แต่การตระเตรียม การวางแผน การสั่งการ การสนับสนุน หรือการควบคุมการกระทำความผิดได้กระทำในอีกรัฐหนึ่ง (ประเทศจีน) ซึ่งเข้าข่ายความผิดในลักษณะของการเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ นำตัวส่งสภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีต่อไป
ผู้ต้องหา ให้การภาคเสธ รับว่าเป็นล่ามจริง แต่ไม่ได้เป็นคนถ่ายคลิปเผยแพร่ ผู้ต้องหาเป็นชาวเขาทางแม่ฮ่องสอน ทำงานเป็นไกด์ให้บริษัทท่องเที่ยว มากระทำความผิดโดยมีผู้ชักชวนให้มาช่วยเป็นล่าม แปลภาษาจากไทยเป็นจีน ในขณะที่มีการเผยแพร่สื่อลามก