ตำรวจสืบ 7 ร่วมกับสืบสวน สน.ตลิ่งชัน รวม 2 ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ ถนนเลียบทางรถไฟ

เมื่อเวลา15.00 น.วันที่ 12 ก.ย. 2566 พ.ต.ท.พงษ์ธวัช คงเสือ รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.บำเพ็ญ นามฉวี สว.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สุเทพ หาดเจียง สว.กก.สส.บกน.7 ร.ต.อ.สาโรช โอสถานนท์ รอง สว. ร.ต.อ.สุรพล สุวรรณรัตน์ รอง สว.พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 1 พร้อมฝ่ายสืบสวนสน.ตลิ่งชัน ร่วมกันจับกุมตัวนายกมล หรือ ป้อง แย้มโกสุมภ์ อายุ31 ปี อยู่บ้านเลขที่22/1 ซอยเทพประทับ รแขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันชิงทรัพย์ จับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าเลขที่626/18 ถนนประชาราษฎร์สาย1 ซอย38 แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางรถจยย.ฮอนด้า ซูมเมอ์ เอ็กซ์ สี น้ำเงิน ดำ ทะเบียน 2กจ 7823 กรุงเทพมหานคร มีดหมอ และเอกสารของผู้เสียหาย ส่วนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นปืนแบลงค์กันส์ บรรจุลูกขนาด.32 ได้นำไปจำนำไว้กับเพื่อนในราคา2,500 บาท ต่อมาตำรวจได้ติดตามกลับมาได้ และจับกุมตัวนายภัทรพล หรือ แจ็ค อายุ31ปี พร้อมด้วยของกลาง รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง ดำ ทะเบียน 6ขง 561 กรุงเทพมหานคร กระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย หมวกกันน็อกและเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ นำตัวไปสอบสวนที่สน.ตลิ่งชัน

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ช่วงเวลา05.30 น.ขณะที่นายดำรงค์ วงศ์ตลาดขวัญ อายุ55ปี ขี่รถจยย.โดยมีนายบัญชา ตาทฤศโธรัยห์ อายุ64ปี ซ้อนท้ายออกมาจากการเสี่ยงโชค ในอ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นรอยตะเข็บติดกับกรุงเทพฯ กำลังจะกลับบ้านย่าน4แยกไฟฉาย เมื่อขี่มาถึงถนนเลียบทางรถไฟ ใกล้สถานีรถไฟตลิ่งชัน แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ได้มีคนร้ายเป็นชาย2คน ขี่รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยคนซ้อนท้ายชักปืนจี้ไปที่ผู้เสียหายแล้วบอกให้หยุดรถ จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ลงมาจากรถ กระชากกระเป๋าสะพายของนายบัญชา ซึ่งภายในบรรจุเงิน4,000 บาท โทรศัพท์มือถือ1เครื่อง พร้อมบัตรเอทีเอ็มและบัตรประชาชน และกระชากกระเป๋าของนายดำรงค์ ซึ่งภายในบรรจุเงินสดจำนวน30,000 บาท และบัตรต่างๆ ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้กับพ.ต.ท.วณิชกร ศักดิ์แสง สว.(สอบสวน)สน.ตลื่งชัน

ต่อมาวันที่ 10 ก.ย.เวลา05.30 น.ขณะที่ พ.ต.ท.องอาจ ภูนกเนียม อายุ68 ปี อดีตนายตำรวจนอกราชการ กำลังขี่รถจยย.ออกมาจากการเสี่ยงโชค กำลังจะกลับบ้านพักย่านบางเขน เมื่อขี่มาถึงบริเวณใต้อุโมงค์ชัยพฤกษ์ ถนนเลียบทางรถไฟ แขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ได้มีคนร้ายเป็นชาย2คน ใช้รถฮอนด้า ซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีน้ำเงิน ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่มาปาดหน้า คนซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาจี้ แล้วกระชากกระเป๋าสะพาย จนรถเสียหลักล้ม พ.ต.ท.องอาจ ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย แถมคนร้ายยังดึงกุญแจรถจยย.เอาไปโยนทิ้งน้ำอีก ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.อมรพงษ์ ตุ้ยทา รอง สว (สอบสวน)สน.ตลิ่งชัน

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดถึงพฤติกรรมการก่อเหตุทำให้ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง2ครั้ง คือคนร้ายคนเดียวกัน ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุจะขี่รถกลับห้องพักย่านวัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี จนต่อมาฝ่ายสืบสวนกก.สส.บกน.7 และฝ่ายสืบสวนสน.ตลิ่งชัน สามารถติดตามจับกุมตัวมาได้พร้อมของกลางดังกล่าว

จากการสอบสวนนายกมล ให้การว่า ตนเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อปี 64 โดนคดีร่วมกันพยายามฆ่า ติดคุกมา5 ปีกว่า หลังจากออกจากคุกก็ทำงานขี่รถจยย.รับส่งพัสดุ โดยตนรู้จักกับนายภัทรพล ที่โดนคดีชิงทรัพย์ในคุก และออกจากคุกมาไล่เรี่ยกัน นายภัทรพล ก็ขี่รถจยย.รับส่งพัสดุเช่นเดียวกัน ส่วนปืนแบลงค์กันส์ ตนซื้อต่อจากเพื่อนมาในราคา3,500บาท ช่วงนี้ตนมีปัญหาด้านการเงิน ภรรยาก็เพิ่งตั้งท้อง ส่วนนายภัทรพล ก็มีลูกอ่อนที่ต้องดูแล เดือดร้อนเรื่องการเงินเช่นกัน จึงชวนกันก่อเหตุ เลือกเฉพาะคนที่ออกมาจากการเสี่ยงโชค เพราะตนรู้ว่าคนที่ออกมาจากเสี่ยงโชคส่วนมากจะมีเงิน หลังจากได้เงินมาก็แบ่งกันใช้จนหมดแล้ว

พ.ต.ท.บำเพ็ญ กล่าวว่า คนร้ายมักก่อเหตุช่วงเช้ามืด และอาจมีผู้เสียหายมากกว่านี้ หากใครสงสัยให้มาดูตัวคนร้ายได้ที่สน.ตลิ่งชัน