“ทนายอนันต์ชัย” เผยไม่กังวลทำคดี “บิ๊กโจ๊ก” เตือน สอท. ระวังตัว เดี๋ยวรู้นรกมีจริง ย้ำให้เงินนักข่าวไม่ใช่สินบน

กรณีตำรวจขอหมายเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านวิภาวดี ที่มีนายตำรวจคนดัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. พักอาศัยอยู่ พร้อมออกหมายจับตำรวจ 8 นายที่ใกล้ชิดกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และมีข้อมูลเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ และจากการตรวจสอบบ้านพักทั้ง 5 หลัง ที่บิ๊กโจ๊กและลูกน้องเข้าพักอาศัย เป็นชื่อ ‘เฮียแต๋ม’ และภรรยา นักธุรกิจเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 27 ก.ย.66 ที่สำนักงานกฎหมายอนันต์ชัยไชยเดช โดยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เดินทางมาถึงสำนักงานฯ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นเรื่องของพ.ต.อ.ภาคภูมิ ที่มีประเด็นกับ มินนี่ นั้น จะรู้ได้อย่างไรว่ามีการกระทำความผิด คดีอาญานั้นอยู่ที่เจตนาในการกระทำความผิด เพียงเส้นทางการเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จะไปกล่าวหาว่าเขากระทำความผิดไม่ได้

การที่มีบุคคลหนึ่งออกมาให้ข่าวว่า คนนั้นคนนี้ผิด ตนเองขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ต้องระวังนะตอนเนี่ย ไม่ใช่โจ๊กหวานเจี๊ยบแต่เป็นโจ๊กอัคนี ตนเองจะเผาให้หมด คนที่ไปกล่าวหาบิ๊กโจ๊กโดยไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้เมื่อก่อนตนเองก็เคยมีประเด็นกับบิ๊กโจ๊กคดีมังกรฟ้า ตนเองเชื่อในความถูกตอง อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นอย่าเชื่อในสิ่งที่เขาเล่าว่า การที่ใครก็ไม่รู้เอาความลับราชการมาเปิดเผยเป็นฉาก ๆ แล้วไปเปิดหน้าเปิดตาคนอื่น ลืมไปแล้วหรือว่ามี พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลฯ ตนเองจะเช็คบิลให้หมด แล้วฝากถึง สอท. ว่า ทำคดีเองนะ อย่าโยนไปให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ เดี๋ยวเจอตนเองแล้วคุณจะรู้ว่านรกมีจริง

ส่วนกรณีที่มีการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้เงินกับนักข่าว ตนเองมองว่าเป็นสินน้ำใจไม่ใช่เป็นสินบน และหากนักข่าวคนใดถูกดำเนินคดีให้มาบอกผมผมจะจัดการให้ และอย่างพูดไปถึงบุคคลท่านหนึ่งที่นำรูปของเอศุภชัยมาโชว์ให้สื่อมวลชนดู ต้นมองว่าเอศุภชัยฉันเกี่ยวอะไรด้วยแค่ถ่ายรูปคู่กับมินนี่ทำไมต้องไปสอบปากคำเขา จะทำอะไรควรจะมีเหตุผลไม่ใช่แค่เอามันเอาสนุก
อย่างไรก็ตามสำหรับวันนี้ที่ตนเองเชิญพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และตำรวจทั้ง 8 นาย มาก็เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมดทุกอย่างโดยละเอียด เพราะหากจะให้ตนเองเป็นทนายความ ทุกคนจะต้องพูดความจริงทั้งหมด และไม่มีข้อกังวลใด ๆ ถ้าผิด ก็ติดคุก แต่ถ้าไม่ผิด พวกมันก็ติดคุก และขอให้ทุกคนเปิดหน้าท้าชน ตนเองไม่เคยหนักใจที่ต้องรับทำคดีนี้แต่คนที่หนักใจ จะต้องเป็น สอท. และเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการดิสเครดิตตำรวจทั้ง 8 นาย และตนเองจเป็นคนเปิดเผยความทั้งหมดเอง