ตำรวจจับ3ผู้ต้องหาพร้อมปืน 14 กระบอกลูกกระสุน 201 นัด

ตำรวจจับ3ผู้ต้องหาพร้อมปืน 14 กระบอกลูกกระสุน 201 นัด

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ต.ค.66 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการณ์ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส รักษาราชการแทน ผบก. ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.ส.ภ.สุไหงโก-ลก, พ.ต.ท.วิสันต์ รักมาก รอง ผกก.สส.ส.ภ.สุไหงโก-ลก, นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นย.ทร.33 และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมอาวุธปืน จำนวน 14 กระบอก และลูกกระสุนปืนจำนวน 201 นัด พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย 1.นายมาห์ตี หรือ ดี ยูโช๊ะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 640/8 ช.11 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 2.นายโมฮัมหมัดอามีรูล บินโมฮัมหมัดนูร อายุ 32 ปี สัญชาติมาเลเซีย และ 3.นายยูกิฟลี หรือคื บินแม อายุ 37 ปี ที่อยู่ 7/5 ช.3 ถ.ชลธารเขต ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นระหว่างวันที่ 9 ถึง 11 ตุลาคม 2566 ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ในการระดมกวาดล้างอาวุธปืนและวัตถุระเบิด ซึ่งพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด

ซึ่งจุดที่ 1 เป็นบ้านเลขที่ 127/2 ช.13 ถ.เจริญเขต ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นบ้านพักของนายมาห์ตี หรือ ดี ยูโช๊ะ อายุ 35 ปี ซึ่งมีนายโมฮัมหมัดอามีรูล บินโมฮัมหมัดนูร อายุ 32 ปี สัญชาติมาเลเซีย อาศัยอยู่ด้วย จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบของกลาง จำนวนหลายรายการ อาทิ 1.อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .357 ยี่ห้อ KING COBRA 2.อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ SMITH & WESSON 3.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อ KIMBER ขนาด .45 ,4.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อGLOCK ขนาด 9 มม. 5.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .357 จำนวน 3 นัด 6.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด 7.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 12 นัด 8.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 18 นัด

พร้อมด้วย ยาอี 74 เม็ด และยาเคตามีน 1. 14 กรัม เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติตให้โทษประเภท ด (ยาอี) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีแก่นายโมฮัมหมัดอามีรูล บินโมฮัมหมัดนูร อายุ 32 ปี สัญชาติมาเลเซียเพิ่มเติมในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
และจากการจับกุม 2 ผู้ต้องหาที่เป้าหมายจุดที่ 1 ได้ขยายผลไปทำการตรวจค้นจุดที่ 2 เป็นบ้านเลขที่ 7/5 ต.3 ถ.ชลธารเขต ต.สุไหงโก ลก จับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือ นายยูกิฟลี หรือ ดี บินแม อายุ 37 ปี พบของกลางหลายรายการ อาทิ 1. อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 ยี่ห้อ Smith & Wesson พร้อมแมกกาชีน จำนวน 4 อัน และเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 11 นัด 2.อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 380 พร้อมแมกกาซีน 1 อัน บรรจุเครื่องกระสุน 380 จำนวน 7 นัด 3.อาวุธปืนพกสั้กึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ GLOCK ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 1 อัน 4.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Colt ขนาด 380 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาชีน จำนวน 1 อัน 5.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Colt ขนาด 380 มม. พร้อมแมกกาชีน 1 อัน 6.อาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อ Cobra Firearms Big Bore ขนาด .38 Special 7.อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ DESERT EAGLE ขนาด .357 มม. พร้อมแมกกาชีนจำนวน 1 อัน 8.อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่สเตนเลสยี่ห้อ north American arms mini revolver ขนาด. 22 LR จำนวน 1 กระบอก 9.อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่สแตนเลสยี่ห้อ smith &wesson ขนาด.38 10.เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 30 นัด 11.เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 8 นัด 12.เครื่องกระสุนปืนขนาด 38 จำนวน 25 นัด 13.เครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 25 นัด 14.เครื่องกระสุนปืนขนาด 6.35 จำนวน 25 นัด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งดำเนินคดีแก่นายยูกิฟลี หรือ ดี บินแม ในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่ถึงอย่างไรก็ตามจากการขยายผล 3 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมอาวุธปืนในครั้งนี้ จำนวน 14 กระบอก จากการให้การมีการซักทอดอาวุธปืนของกลางดังกล่าวเป็นของคนๆหนึ่งที่ได้มีการฝากไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนถึงบุคคลดังกล่าว ที่ไม่สามารถให้รายละเอียดถึงชื่อนามสกุลได้ ถึงที่มาที่ไปของอาวุธปืนทั้ง 14 กระบอก ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่ามีทะเบียน 4 กระบอก ส่วนอีก 10 กระบอก มีเพียงหมายเลขประจำปืนที่ได้ตอกไว้

ด้าน พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า อาวุธปืนทั้ง 14 กระบอก เจ้าหน้าที่จะส่งไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา เพื่อทำการตรวจสอบวิถีกระสุน เพื่อนำไปเปรียบเทียบคดีต่างๆในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าปืนแต่ละกระบอกเคยมีการนำไปก่อเหตุที่ใดบ้างหรือไม่ แต่จากการสังเกตในเบื้องต้นอาวุธปืนจำนวนหนึ่ง เป็นอาวุธปืนที่มีไว้สะสมและหายากมีราคาค่อนข้างสูงในวงของคนเล่นปืน
///////////////////////////////////// 13 ตุลาคม

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

        

        Loading...