ตร.รวบชายเสพยา ขับเก๋งขโมยอลูมิเนียม ทิ้งรถวิ่งหนีรปภ. หลอนรุ่งขึ้นแจ้งความตำรวจรถหาย ก่อนถูกรวบคาบ้านพร้อมยา 170 เม็ด
1 min readเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ต.ค.66 ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รองผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ชุดจับกุมประกอบด้วย ด.ต.ธีร์วิลยุทธ์ ต้นเจริญ , ด.ต.ชนายุส เอียดคำ , ด.ต.วีรพัฒน์ สายวาริน , ด.ต.ณัฐนันท์ จิตโคกกรวด , จ.ส.ต.วีรยุทธ เสาวรส , จ.ส.ต.นรากร คำแพง , ส.ต.ท.ธีระพงษ์ วิเศษศิลป์ , ส.ต.ต.วรพล พลเยี่ยม ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายปิยะ หรือยะ ดวงพลจันทร์ อายุ 43 ปี ได้ที่บ้านพักเลขที่ 200/713 ม.1 ต.บางตลาดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง 1.ยาบ้าประทับตรา WY บรรจุถังพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 170 เม็ด 2.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออสสีดำ ทะเบียน กอ7355 นนทบุรี 3. เศษอลูมิเนียมจำนวน 74 ชิ้น หนักกว่า 62 กก. ตำรวจแจ้งข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย , แจ้งความเท็จ , ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวันนี้ (17 ต.ค.66) เวลา 09.30 น. นายปิยะ หรือยะ ผู้ต้องหา ได้เดินทางมาที่สภ.ปากเกร็ด เพื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่ารถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออสได้หายไปโดยอ้างว่าได้จอดรถยนต์ไว้ที่บริเวณ ลานจอดรถตลาดสโมสรกรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แล้วนั่งแท็กซี่ไปทำธุระจนกระทั่งเวลา 03.00 น. กลับมาบริเวณที่จอดรถปรากฎว่าไม่เจอรถยนต์จึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ขณะที่พนักงานสอบปากคำนายปิยะ หรือยะ มีท่าทีพิรุจ ไม่ยอมตอบคำถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วอ้างว่า ” ตำรวจถามเยอะจัง ” หลังจากพนักงานสอบสวนรับแจ้งความได้ประสานชุดสืบสวนให้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทางตำรวจชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณ ลานจอดรถภายในศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิขุ พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้จอดอยู่ไม่ได้หายไป ขณะเดียวกันเวลา 12.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบรถยนต์ ก็ได้รับแจ้งจากนายภาสกรณ์ ผู้เสียหายตัวแทนของศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิขุ เดินทางเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายขโมยเศษอลูมิเนียมกว่า 70 ชิ้น ขึ้นรถยนต์ดังกล่าวที่จอดทิ้งไว้แล้วหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านพักนายปิยะ ผู้ต้องหา พบว่านายปิยะอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกำลังนั่งบนเก้าอี้เสพยาบ้าอยู่ ทางตำรวจจึงทำการตรวจค้นบ้านพบยาบ้าจำนวน 170 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงจับกุมตัวพร้อมยึดของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุพบว่าภายในรถยนต์มีเศษเหล็กอลูมิเนียมกว่า 74 ชิ้น หนัก 62 กก. ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายปิยะ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า วันที่ 17 ต.ค.66 เวลา 04.30 น. ตนได้ก่อเหตุขโมยอลูมิเนียมบริเวณลานจอดรถศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิขุ ขณะที่กำลังก่อเหตุนำอลูมิเนียมขึ้นรถยนต์ปรากฎว่าถูก รปภ.บริเวณจุดเกิดเหตุพบเห็นจึงรีบวิ่งหนีแล้วทิ้งรถยนต์จอดไว้ที่เกิดเหตุ ก่อนช่วงเช้าตนก็เดินทางมาแจ้งความว่ารถยนต์หายไปที่สภ.ปากเกร็ด เพราะ คิดอะไรไม่ออกหมดหนทางแล้วไม่กล้าเข้าไปเอารถเพราะ รปภ.จำหน้าได้ ส่วนอลูมิเนียมที่ก่อเหตุขโมยมามาเพราะไม่มีเงินใช้ จะนำไปขายเพื่อเลี้ยงชีพไปวันๆ ไม่ได้ติดพนันหรือติดหนี้ มีแค่ติดยา วันนี้ตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ที่บ้านพร้อมยาบ้า 170 เม็ด ตนซื้อมาเสพอย่างเดียวไม่ได้เอาไปขายต่อ หลังจากตนถูกจับกุมตัวตอนนี้เมียได้ทราบเรื่องแล้ว แต่ไม่ได้มีความเป็นห่วงเป็นใย เพียงบอกว่าปล่อยไป พร้อมกับสมน้ำหน้าตน ตอนนี้ตนจึงให้เมียนำเงินที่จะประกันตัวเก็บไว้ให้ลูกใช้จะดีกว่า ไม่ต้องมานั่งเสียเงินกับเรื่องตน และของที่ขโมยมาตนไม่ได้จะเอาไปซื้อยาเสพติดเพราะว่าขายได้เพียง 2,000 บาท ซื้อยาไม่พอเสพ ถ้าตนจะซื้อยาจะซื้อเป็นลูกทีเดียวล๊อตใหญ่ และหลังจากนี้ยืนยันต่อหน้าสื่อว่าจะไม่ทำอีกแล้ว ตอนนี้ก็ยอมรับและต้องเข้าไปอยู่ในคุกอาศัยข้าวหลวงกินไปก่อน