สืบนครบาล จับกุม “หมวย โพธิ์แท่น” เปิดบัญชีหลอกขายอะไหล่โน็ตบุ๊ก หนังสือนิยายหายาก อ้างผัวให้เปิดเพื่อใช้หลอก
1 min readสืบนครบาล จับกุม “หมวย โพธิ์แท่น” เปิดบัญชีหลอกขายอะไหล่โน็ตบุ๊ก หนังสือนิยายหายาก มูลค่าความเสียหายไม่มาก แต่ผู้เสียหายจำนวนมาก อ้างสามีให้เปิด 15 บัญชีเพื่อใช้หลอก
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท รอง ผบ.ตร. (สส) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่าน เพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว หมวย โพธิ์แท่น ซึ่งมีพฤติการณ์ แฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟสบุ๊คขายสินค้าประเภทหนังสือหายากต่างๆ หนังสือนิยาย หนังสือเรียน หนังสือกฎหมาย หนังสือทางการแพทย์ หนังสือติว บอร์ดโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ อะไหล่โทรทัศน์ โดยเมื่อมีผู้เสียหายโพสต์ต้องการอยากได้หนังสือหายาก นิยาย หนังสือเรียน อะไหล่คอมพิวเตอร์ต่างๆ คนร้ายจะทำทีทักข้อความผ่านโปรแกรม Facebook Messenger อินบล็อกไปหาผู้เสียหาย หลอกตกลงราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานตามท้องตลาด เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน ก็จะทำนิ่งเฉย ไม่ส่งสินค้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายหลายรายตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายหลายหมื่นบาท
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ผู้การจ๋อเมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม
น.ส.มะลิวัลย์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 138 หมู่ 1 ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองค์รักษ์ จังหวัดนครนายก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ”
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเฝ้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณหมู่ 2 ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี
จากการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า ปัจจุบัน น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 1 หมายจับ ตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ”
ในชั้นจับกุม หมวย โพธิ์แท่น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า สามีของตนชื่อนายจักรกฤษ หรือเล็ก เป็นผู้ขอยืม/นำบัญชีธนาคารของตนไปใช้ และยังใช้ให้ตนเปิดบัญชีธนาคารผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารต่างๆ รวมกว่า 15 บัญชี ประกอบด้วย (1) บัญชีธนาคารเกียรตินาคิน เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (2) บัญชีธนาคารเกียรตินาคิน เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (3) บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (4) บัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (5) บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (6) บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (7) บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (8) ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (9) บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (10) บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (11) บัญชีธนาคารซีไอเอ็มบี เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (12) บัญชีธนาคารซีไอเอ็มบี เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (13) บัญชีธนาคารยูโอบี เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (14) บัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข (15) บัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) เลขที่บัญชีจำไม่ได้ ชื่อบัญชี น.ส.มะลิวัลย์ ขวัญสุข
โดยบัญชีธนาคารที่เปิดนายจักรกฤษ หรือเล็ก นำไปใช้เป็นบัญชีรองรับเงินที่ได้จากการหลอกขายสินค้าประเภทหนังสือหายากต่างๆ หนังสือนิยาย หนังสือเรียน หนังสือกฎหมาย หนังสือทางการแพทย์ หนังสือติว บอร์ดโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ อะไหล่โทรทัศน์ ที่มีผู้เสียหายโพสต์ว่าต้องการอยากได้อยากซื้อในกลุ่มเฟสบุ๊คที่นายจักรกฤษ หรือเล็ก เข้าไปแอบแฝงกว่า 200 กลุ่ม
จากการซักถามปากคำขอเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าปัจจุบัน น.ส.มะลิวัลย์ หมวย โพธิ์แท่น ยังอยู่กินกับนายจักรกฤษ หรือเล็ก จึงได้ให้ น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น ติดต่อนายจักรกฤษ หรือเล็ก เพื่อทราบว่าตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และให้เข้ามาพบเพื่อซักถามปากคำ ซึ่งนายจักรกฤษ หรือเล็ก ก็ได้เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมด้วยความสมัครใจ โดยรู้สำนักในความผิดที่ได้กระทำเนื่องจากเกรงแฟนจะต้องมารับโทษในความผิดที่ตนได้ก่อไว้
จากการซักถามปากคำนายจักรกฤษ หรือเล็ก ให้การรับสารภาพว่าตนเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ ในการแฝงตัวเข้าไปหลอกผู้เสียหายในกลุ่มต่างๆ กว่า 200 กลุ่ม จำนวน 12 บัญชี ประกอบด้วย (1) ชื่อบัญชี “ ช่างนนท์ ณัฐวุฒิ ” (2) ชื่อบัญชี “ ช่างเอ็ม อิเล็กทรอนิกส์ ” (3) ชื่อบัญชี “ ช่างนนท์ อิเล็กทรอนิกส์ ” (4) ชื่อบัญชี “ อิเล็กทรอนิกส์ ช่างนนท์ ” (5) ชื่อบัญชี “ คือการเรียนรู้เพราะชีวิต ” (6) ชื่อบัญชี “ เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ ” (7) ชื่อบัญชี “ สอง อิเลกทรอนิกส์ ” (8) ชื่อบัญชี “ ช่างหนึ่ง ครับ ” (9) ชื่อบัญชี “ Rosarin To ” (10) ชื่อบัญชี “ เจ้าสัว บ้านนอก ”(11) ชื่อบัญชี “ Siw Siwkew ” (12) ชื่อบัญชี “ ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด ”
เงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายนำไปใช้จ่ายใจครอบครัว
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมาพบว่า น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น มีประวัติถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2560 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) ” ท้องที่ สภ.วิหารแดง
2) ปี 2566 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สภ.สามร้อยยอด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.มะลิวัลย์ หรือ หมวย โพธิ์แท่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พร้อมทั้งได้เชิญตัวนายจักรกฤษ หรือเล็ก เพื่อซักถามปากคำรับสารภาพด้วยความสมัครใจ และเชิญตัวไปพบพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทางคดี ในคราวเดียวกันต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ผู้การจ๋อ กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า)
นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
Loading…