พฤหัส. พ.ย. 28th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

“ตำรวจไซเบอร์” รวบอีกหนึ่ง “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลอกผู้เสียหาย สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

1 min read

ตำรวจไซเบอร์รวบอีกหนึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลอกผู้เสียหายโอนเงิน และติดตั้งแอปดูดเงิน สูญกว่า 3 ล้านบาท หลังจับกุมได้แล้ว 13 คน จาก 28 คนในขบวนการ

จากกรณีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเผยแพร่กันในวงกว้าง ถึงคลิปเตือนภัยมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่งเครื่องแบบวิดีโอคอลกับผู้เสียหาย อ้างว่าตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน แต่ผู้เสียหายรู้ทัน มิจฉาชีพจึงขู่ว่าจะทำการอายัดบัญชีทางการเงินทั้งหมด ก่อนจะวางสายไปนั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) และ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. เร่งติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขบวนการดังกล่าวโดยเร็ว

ล่าสุด พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการตำรวจไซเบอร์ สอท.3 จับกุมหนึ่งในผู้ต้องหา หลังพบว่าเดินทางจากประเทศกัมพูชาเข้ามากบดานในประเทศไทย ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมา พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ได้นำกำลังสืบสวนจับกุม นาย เมธาพร หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าว โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านพัก หมู่ 1 ต.หลักเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 น.ส.นลินี ผู้เสียหายซึ่งทำงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพ แนะนำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ้างว่ามีคนนำเอกสารผู้เสียหายปลอมแปลงเช่ารถยนต์ และเปิดบัญชี และแจ้งว่าผู้เสียหายเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการขนย้ายยาเสพติดและฟอกเงิน ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ ใช้ชื่อว่า “สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี” ก่อนแล้วหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ของเส้นทางการเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปในบัญชีที่มิจฉาชีพเตรียมไว้ จำนวน 500,000 บาท จากนั้นมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น ใช้ชื่อว่า “DSI ปลอดภัย” ทำให้สามารถควบคุมโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายได้ แล้วทำการโอนเงินไปหมดบัญชี รวมมูลค่าความเสียหาย 3,291,971.80 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เป็นมรดก และเงินฌาปนกิจที่คุณพ่อพึ่งเสียชีวิต เมื่อเดือน พฤษภาคม 2565 และเงินทุนวิจัยในการศึกษาโครงการวิจัยเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

พ.ต.อ.อภิรักษ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายเมธาพร ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์สายที่ 1 ใช้ระบบการโทรสุ่มอัตโนมัติโทรศัพท์ทำหน้าที่พูดคุยหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ้างว่ามีคนปลอมเอกสารส่วนตัวของผู้เสียหายไปเช่ารถยนต์ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขบวนการนี้ มีสำนักงานอยู่ในประเทศกัมพูชา จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการทั้งสิ้น 28 ราย แบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีหัวหน้าแก๊งเป็นคนจีน ทำหน้าที่สั่งการ จ่ายเงินเดือน บริหารควบคุมดูแลการทำงานของคอลเซ็นเตอร์ , ล่าม , พนักงานคอลเซ็นเตอร์ สาย 1 – 3 , พนักงานฝ่ายเอกสาร , ผู้แสดงเป็นตำรวจวีดีโอคอลกับเหยื่อ และผู้เปิดบัญชีรับโอนเงิน โดยก่อนหน้านี้ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมได้แล้วรวม 13 ราย และจับกุม นายเมธาพร รายล่าสุด รวมเป็น 14 ราย ซึ่งอีก 14 รายที่เหลือ จะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนเป็นผู้เสียหายสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บช.สอท.1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.