“ปวีณา” ประสาน ผกก.สภ.สวี จับพ่อหื่น! ข่มขืนลูกสาวในไส้วัย 7 ขวบ
1 min readวันที่ 2 พ.ย.66 “ปวีณา” ประสาน ผกก.สภ.สวี จับพ่อหื่น! ข่มขืนลูกสาวในไส้วัย 7 ขวบ หลังแม่ร้องทุกข์ “ปวีณา” ที่ผ่านมาไม่กล้าบอกใคร เพราะพ่อข่มขู่จะยิงทิ้งทั้งแม่และลูก เด็กจึงปิดปากเงียบ แต่แม่มาเจอหลักฐานในมือถือเป็นภาพชายร่างเปลือยจำได้เป็นสามีตัวเองเพราะเห็นรอยสักที่ขากำลังคล่อมร่างด.ญ.จึงมั่นใจ แม่เกลี้ยกล่อมลูกจนเล่าความจริง ตร.ออกหมายจับรวบพ่อหื่นแล้วช่วงเย็นที่ผ่าน ก่อนคุมตัวไปฝากขังศาล 3 พ.ย.นี้
สืบเนื่องจากวันที่ 19 ต.ค.66 นางแหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี โทรสายด่วน 1134 ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาว 7 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา แม่เพิ่งมารู้เรื่องเพราะลูกถูกข่มขู่เอาไว้ ตัวเองและลูกกลัวจะเป็นอันตรายเพราะสามีเสพยาเสพติดและมักจะซ้อมทำร้ายเป็นประจำ ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
เมื่อทราบเรื่องทั้งหมด นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี สภ.สวี จ.ชุมพร ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เดินทางไปจ.ชุมพร ซึ่งนางแหม่มได้พาลูกสาวหนีออกมาจากบ้านจ.สุราษฎร์ธานี มาพบกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้พานางแหม่มและลูกสาวไปพบ ผกก.สวี เพื่อแจ้งความ จากนั้นนางปวีณา ได้รับสองแม่ลูกเข้าอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จะได้พาสองแม่ลูกเข้ากรุงเทพฯ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ
เบื้องต้นพบเด็กมีร่องรอยถูกข่มขืน ต่อมาวันที่ 27 ต.ค. นางปวีณา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาสองแม่ลูกไปสอบสหวิชาชีพที่จ.ชุมพร ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายเอก พ่อแท้ๆ ที่ข่มขืนลูก
ล่าสุดวันนี้ 2 พ.ย.66 นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี สภ.สวี จ.ชุมพร ว่า ช่วง 17.00 น. ตำรวจสภ.สวี ได้เข้าจับกุมตัวนายเอก ได้แล้วที่ห้องเช่า จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายและจะคุมตัวส่งฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้ 3 พ.ย. พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่สองแม่ลูกซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ร้องไห้ดีใจกอดกันแน่นเพราะจากนี้จะไม่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาอีกแล้ว
รายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้น นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องราวจากนางแหม่มทันที โดยนางแหม่ม เล่าว่า ตนอยู่กินกับนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ที่บ้านฝ่ายชาย จ.ชุมพร โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกสาว 1 คน คือ น้องหญิง (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ ก่อนหน้านี้ตนกับสามีทำอาชีพรับจ้างแทงปาล์ม นายเอกมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและชอบทำร้ายตนเป็นประจำ ระยะหลังไม่ค่อยมีงานตนจึงกลับบ้านเกิดที่จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อไปรับจ้างแกะปู หารายได้เลี้ยงครอบครัว ส่วนนายเอกไม่ทำงานอะไรอยู่กับลูกที่จ.ชุมพร ซึ่งตนจะกลับไปหาลูกและส่งเงินให้เป็นประจำ
ตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นลูกผิดปกติ มีอาการก้าวร้าว กลัวพ่อมาก ต่อมาช่วงเดือนมิ.ย. ตนเห็นรูปในโทรศัพท์สามี เป็นรูปผู้ชายลักษณะคร่อมร่างด.ญ.คนหนึ่ง เห็นอวัยวะเพศถูไถกัน แต่ไม่เห็นหน้าทั้งสองคน ส่วนผู้ชายตนจำได้แม่นยำว่าเป็นสามีตนเพราะมีรอยสักอยู่ที่ต้นขา จากนั้นตนก็มาถามลูกสาวว่าพ่อทำอะไรรึป่าว แต่ลูกไม่ยอมพูดอะไร ซึ่งตนก็สงสัยจึงได้ไปถามสามี แต่สามีปฏิเสธและโมโหหาเรื่องทะเลาะก่อนจะทำร้ายตนจนแขนหัก และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นช่วงเดือนส.ค. สามีตนก็พาลูกสาวมาอยู่กับตนที่ห้องเช่า จ.สุราษฎร์ธานี ตนเก็บเรื่องคาใจและพยายามถามลูกสาวมาตลอด แต่ลูกไม่ยอมพูด กระทั่งวันที่ 19 ต.ค. น้องสาวตนรู้เรื่องจึงแกล้งถามหลาน และลูกสาวก็ยอมบอกว่าถูกพ่อข่มขืน 2 ครั้ง ในช่วงเดือนเม.ย. ถึงมิ.ย. พร้อมกับทำท่าให้ดู ครั้งแรกถูกกระทำในบ้าน ครั้งที่ 2 ในห้องน้ำ ภายในบ้านพ่อที่จ.ชุมพร โดยพ่อเอารูปถือปืนยาวมาให้ลูกสาวดูแล้วข่มขู่ว่า “ถ้าเอาเรื่องไปบอกแม่หรือบอกใครจะยิงทิ้งให้ตายทั้งแม่และลูก” ลูกสาวจึงกลัวว่าแม่จะเป็นอันตราย เพราะที่ผ่านมาลูกก็เห็นพ่อทำร้ายแม่เป็นประจำจึงไม่กล้าบอกใคร