ตำรวจเอาจริง!เตรียมพิจารณาคาดโทษผู้ปกครอง หากบุตรหลานก่อเหตุซ้ำซาก ถือเป็นการเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยให้ก่อเหตุ
1 min readกรุงเทพมหานคร-พลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาที่ สน.ดุสิต เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาจับมาได้ทั้ง 2 คน ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้การครบถ้วนทุกประเด็นแต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนผู้ก่อเหตุรายที่ 3 ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน และและดำเนินการขอศาลออกหมายจับ ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้ รู้จักการข่าวทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ไม่น่าจะมีการติดต่อเขามอบตัวแต่อย่างใด
โดยสิ่งต่อไปมีตำรวจจะมีการพิจารณาคือ การเอาผิดผู้ปกครอง หากตรวจสอบแล้วพบว่าบุตรหลาน เคยมีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายซ้ำซาก และผู้ปกครองรับรู้พฤติกรรม แต่ปล่อยปะละเลย เพิกเฉยให้ไปก่อเหตุซ้ำหลายครั้ง ก็อาจจะพิจารณาลงโทษผู้ปกครองด้วยเช่นเดียวกัน คดีในลักษณะนี้ผู้ตกต้องหามักจะเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 16 ปีขึ้นไป และเคยมีประวัติก่อเหตุซ้ำซาก จึงต้องมีการพิจารณาเอาผิดผู้ปกครองเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนพ่อแม่ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของบุตรหลานในการก่อเหตุ ก็จะให้ความเป็นธรรมเหมือนกัน
ส่วนคดีที่นักศึกษาอุเทนถวาย ยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดจนเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนเป็นขั้นตอน ตั้งแต่รีดไถเงินซื้ออาวุธปืน สลับรถ เปลี่ยนแปลงสีรถ ปลอมป้ายทะเบียนรถ เป็นต้น ก็มีการพิจารณาเรื่องของการลงโทษเรื่องของการฟอกเงิน เพื่อเป็นยกระดับการใช้ข้อกฎหมายในการเอาผิด สำหรับคดีในลักษณะนี้ จุดชนวนน่าจะเกิดมาจากความเชื่อที่ผิด การปลูกฝังจากรุ่นพี่ ซึ่งถือเป็นเรื่องยากของตำรวจที่จะเข้าไปป้องกัน