DSI บุกค้นบริษัทห้องเย็น ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม หลังพบเจ้าของบริษัทโอนเงินให้ผู้ต้องหาในคดีนำเข้าหมูเถื่อน กว่า 220 ล้านบาท
1 min read
กรมสอบสวนคดีพิเศษบุกค้นบริษัทห้องเย็น และเอกสารเส้นทางทางการเงิน ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม หลังพบเจ้าของบริษัทโอนเงินให้ผู้ต้องหาในคดีนำเข้าหมูเถื่อน กว่า 220 ล้านบาทโดยไม่พบทำนิติกรรมระหว่างกัน
พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ซึ่งเป็นบริษัทห้องเย็นจำนวน 2 จุด และบ้านพักจำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลทุ่งน้อย อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดเมืองนครปฐม ซึ่งเป็นบริษัทห้องเย็นที่พบข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทนำเข้าหมูเถื่อน สองพ่อลูกย่านดอนเมือง
พันตำรวจตรีณฐพล เปิดเผยว่า ข้อมูลจากการสืบสวนพบว่าเจ้าของของบริษัทห้องเย็นแห่งนี้มีเส้นทางทางการเงินโอนเงินให้กับ 2 พ่อลูก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนำเข้าหมูเถื่อน จำนวนกว่า 220 ล้านบาทในช่วงปี 2565 ถึงปี 2566 โดยไม่มีทำนิติกรรมระหว่างกัน จึงเป็นเหตุให้ทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอหมายจับจากศาลอาญาจำนวน 3 หมายเข้าตรวจค้นในวันนี้
จากการตรวจค้นเป้าหมายแรก เป็นโกดังแช่เย็น พบเนื้อหมูแช่แข็งอยู่ในห้องเย็นของบริษัท เป็นประเภทเนื้อหมูสามชั้นจำนวน 7 ตัน และพบเอกสารบางส่วน , จุดที่ 2 เป็นโกดังแช่เย็น พบเนื้อหมูแช่แข็งจำนวน 10 ตัน ขณะอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ประจำจังหวัดเข้าตรวจสอบ
ส่วนจุดที่ 3 เป็นบ้านพักของเจ้าของบริษัทโกดังแช่เย็นทั้ง 2 แห่ง เป้าหมายของเจ้าหน้าที่คือเข้าไปตรวจค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางทางการเงินที่พบว่ามีการโอนเงินให้กับผู้ต้องหาในคดีนำเข้าหมู่เถื่อน สองพ่อลูก
ขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้เคียงโกดังแห่งแรก ให้ข้อมูลว่าได้รับผลกระทบจากกลิ่นเน่าเหม็นจากกองขยะของโรงงานที่เอามาตั้งทิ้งไว้บริเวณถังขยะหน้าโรงงาน และยังมีการปล่อยน้ำเน่าเสียลงลำลางสาธารณะ ทำให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทำให้น้ำเน่าเสีย อีกครั้งตลอดในช่วงระยะหลายปีที่ผ่านมาทางบ้านมีอาการป่วยจากโรคผิวหนังซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจากปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้เครื่องจักรกลของโรงงานยังส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย จากปัญหาที่เกิดขึ้นเคยแจ้งทางองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งน้อยให้เข้ามาตรวจสอบแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามาตรวจสอบทำให้ปัญหาดังกล่าวเบาบางลงไปบ้าง แต่ก็ยังส่งผลกระทบอยู่
