“บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่สามารถเอาตัวผู้ต้องหาเยอรมันซื้อบริการเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กลับมาไทยได้ เตรียมบินไปสอบคลี่ปมจ่ายเงินตำรวจในเดือน ม.ค.นี้
1 min readเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมหารือร่วมกับเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ทราบว่านายเจน ผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ได้หลบหนีไปที่ประเทศเยอรมันตั้งแต่เดือน ก.พ. และมีการคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายของเยอรมัน ที่ระบุว่าประชาชนทำผิดนอกราชอาณาจักร จะถูกดำเนินคดีในข้อหานั้นๆที่เยอรมันได้ทันที ส่วนการเจรจาในวันนี้มี 2 เงื่อนไข คือ 1.ผู้ต้องหาหากถูกดำเนินคดีแล้ว ถ้าเอากลับมาที่ไทยเป็นไปได้ยาก 2.ตนจะเดินทางไปเยอรมัน ภายในเดือน ม.ค.2567 นี้ เนื่องจากตัวผู้ต้องหาออยู่ในชั้นอัยการแล้ว เชื่อมั่นว่าทางอัยการจะโน้มน้าวผู้ต้องหาในการให้การที่เป็นประโยชน์ รวมถึงจะสอบปากคำในประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายสินบนให้ตำรวจ รวมทั้งจะมอบเอกสารและพยานหลักฐานให้กับอัยการของเยอรมันด้วย
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การสอบปากคำทนายความ และตรวจการเบิกเงินจากบัญชีของผู้ต้องหา ตรงกับที่ทนายบอกก่อนหน้านี้ว่าเงิน 1 ล้านบาทนั้น เป็นการจ่ายค่าประกันตัวและค่าดำเนินการของทนายความ และการที่ผู้ต้องหาออกนอกประเทศได้ เพราะทำตามเงื่อนไขของศาลในการวางเงินสดประกันตัว ส่วนเงินที่ว่ามีการจ่ายให้กับตำรวจตนจะต้องไปสอบในประเด็นนี้ด้วย เบื้องต้นยืนยันว่าผู้กำกับที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น และพนักงานสอบสวนมีความผิดวินัยชัดเจน ที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาออกไปถึง 2 คน โดยไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่รู้ระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่ ต้องรอการสอบปากคำของผู้ต้องหาก่อน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนที่ผู้กำกับ สภ.พัทยา ในขณะนั้นได้เลื่อนยศเป็นรองผู้การจังหวัดระยองนั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนผู้ต้องหาชาวอเมริกันที่มีการหลบหนีทางช่องทางธรรมชาติ จะมีการประสานตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงในสัปดาห์หน้า ขณะที่ผู้ต้องหาชาวอังกฤษ ขณะนี้ได้นำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องกักของ ตม. เรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ส่วนสถานบันเทิงที่ผู้ต้องหาคนนี้เป็นเจ้าของนั้น ขณะนี้ไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว
“ผลการพิจารณาของ ภ.2 นั้น เบื้องต้นจะต้องแล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 30 วัน ทั้งนี้ยืนยันไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะตนลงมากำกับเอง นอกจากนี้ในส่วนของการพิจารณาภาพรวมของทิปรีพอร์ต ยืนยันว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ดี โดยสามารถยกระดับจาก 2.5 เป็น 2 ได้ ดังนั้นในปีนี้เชื่อว่าไทยยังรักษามาตราฐานได้ และตนจะเดินทางไปชี้แจงที่อเมริกา เพราะเป็นประเทศตั้งต้นการจัดลำดับ” รอง ผบ.ตร. กล่าว