เต้ “มงคลกิตติ์” บุกยื่นหนังสือจี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฟันข้าราชการแอบขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท
1 min readวันนี้ 13 ธันวาคม 2566 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อ-อดีต หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ นางสาวภคอร จันทรคณา อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อ-อดีต รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการแอบขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม นอกระบบ หรือ เถื่อน นอก มติ ครม.5 กรกฏาคม 2566 กว่า 5-7 แสนราย
เนื่องด้วย พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้รับการร้องเรียน จากข้าราชการประจำผู้รักความถูกต้อง บริษัทจัดหางาน ว่ามีการแอบขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวนอกระบบ เถื่อน
ตามมติ ครม.เดิม เห็นชอบ เมื่อ 5 กรกฏาคม 2566 เรื่อง แรงงานต่างด้าว มี 3 ประเด็น ดังนี้
1.ผ่อนผันให้แรงงานข้ามชาติ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ที่นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อแจ้งความต้องการฯ ต่อกรมการจัดหางาน แล้ว ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 1,000,000 คน โดยต้องดำเนินการตามแนวทางที่มติ ครม.กำหนด เพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 2.ผ่อนผันให้แรงงานข้ามชาติ 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่เข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู ซึ่งวาระการจ้างงานครบ 4 ปี
ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานเป็นการชั่วคราว ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 โดยระหว่างผ่อนผันให้นายจ้างขออนุญาตนำแรงงานข้ามชาติที่ได้รับการผ่อนผัน เข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู และให้แรงงานเดินทางกลับประเทศต้นทางและเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยในโอกาสแรกโดยไม่ต้องมีระยะเวลาพัก 30 วัน
3.ลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท เหลือ 500 บาท และค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป จากครั้งละ 1,900 บาท เหลือครั้งละ 500 บาท ทั้งสำหรับแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู และแรงงานข้ามชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
ช่วงที่ผ่านมา หลัง 31 กรกฏาคม 2566 กรมการจัดหางานได้ปิดระบบลงทะเบียนผ่อนผันแรงงานต่างด้าว ที่นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อแจ้งความต้องการฯ ต่อกรมการจัดหางาน แล้ว ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 1,000,000 คน โดยต้องดำเนินการตามแนวทางที่มติ ครม.กำหนด เพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568
ขณะนี้มีบริษัทจัดหางานจำนวนหนึ่ง ประมาณ 5% ร่วมมือกับ คนใกล้ชิดบ้านใหญ่ คนสนิทรัฐมนตรี ข้าราชการประจำระดับสูง ของกระทรวงแรงงาน แอบขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวนอกระบบ เพิ่มเติมกว่า 5-7 แสนราย คิดหัวละ 4,500 บาท เก็บจากโรงงานต่างๆที่รับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน วงเงินทุจริตฟอกเงินร่วม 3,000 ล้านบาท ผ่านบริษัทจัดหางาน กว่า 15 แห่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นผลเสียต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ในหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นภัยอย่างร้างแรงอีกทั้งยังเป็นความผิดมูลฐานการฟอกเงิน
ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ จึงเรียนมายัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้ตรวจสอบการแอบขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม นอกระบบ หรือ เถื่อน นอก มติ ครม.5 กรกฏาคม 2566 กว่า 5-7 แสนราย พร้อมดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะมีความผิดมูลฐานว่าด้วยการค้ามนุษย์และฟอกเงิน