“ลุงเปี๊ยก” เปิดปากสารภาพ ยอมรับจินตนาการสร้างเรื่องฆ่าป้าบัวผัน ขณะที่”บิ๊กโจ๊ก”ลงพื้นที่ เคลียร์ทุกข้อสงสัย
1 min read
ลุงเปี๊ยกเปิดปากสารภาพ ยอมรับจินตนาการสร้างเรื่องฆ่าป้าบัวผัน ขณะที่บิ๊กโจ๊กลงพื้นที่ เคลียร์ทุกข้อสงสัย เชื่อลุงเปี๊ยก มีอาการผิดปกติจากพิษสุราเรื้อรัง เตรียมนำตัวไปบำบัด ด้าน ชุดทำคดียืนยันทำตามกฎหมายทุกอย่าง
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(16ม.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมประชุมคดี 5เยาวชนแก๊งลูกตำรวจรุมทำร้ายและฆ่า น.ส.บัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ อายุ 47 ปี หลัง กัน จอมพลัง พาพี่สาวของ น.ส.บัวผัน เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม ที่สโมสรตำรวจ เมื่อเช้าวันที่ 16 มกราคม โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก อายุ 56ปี พร้อมพี่สะใภ้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ไปรับตัวมาจากบ้านพัก ใน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ มารอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สอบปากคำด้วยตนเอง
ลุงเปี๊ยก เปิดใจชี้แจงถึงการรับสารภาพว่า ตนเองเเต่งเรื่องขึ้นมาเอง เป็นเรื่องสมมุติ เพราะว่าตนเองเมา ซึ่งไม่รู้อะไรตอนนั้นคิดอะไรขึ้นมา ตนเองก็นึกไม่ออกว่าสิ่งที่ทำไปมันผิดหรือถูก ยังไม่รู้ตัวเหมือนกัน เพราะก็ยังเมาค้างอยู่
เมื่อถามว่ามีใครมาวางแผนให้ลุงเปี้ยกให้การแบบนี้หรือไม่ ลุงเปี๊ยก บอกว่า ไม่มีและไม่รู้จักตำรวจ ส่วนตอนที่ให้การรับสารภาพและบอกว่าใช้เก้าอี้ตีนั้น เพราะเจ้าหน้าที่เอาเกี้มาให้ ตนเองก็เลยนึกขึ้นมา ตอนนั้นทะเลาะกัน ตนเองตั้งเรื่องขึ้นมาเอง ส่วนที่ตั้งเรื่องว่าทะเลาะกันนั้น ตนเองก็สมมุติขึ้นมาเอง
เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่ในวันที่ป้าบัวผันเสียชีวิต ลุงเปี๊ยกอยู่ที่ไหน เจ้าตัวบอกว่า คืนนั้นตนเองอยู่ที่สะพานพระสยามเทวาธิราช โดยกินเหล้าอยู่และก็นอนที่สะพานพระสยามเทวาธิราชตรงนั้นเลย
ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปว่า ข้อมูลที่ได้มีการพบศพวันที่ 12 ม.ค.และลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ส่วนการที่ไม่รอตรวจดีเอ็นเอก่อนนั้น จากการทำงานตนเองเข้าใจ เพราะเมื่อผู้ต้องหารับสารภาพและมีรอยเลือดก็เชื่อว่าเป็นผู้ต้องหาแน่ จึงมีการควบคุมตัว จากนั้นก็เร่งการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งเมื่อมีการไล่ไทม์ไลน์ ก็พบว่าผู้การจังหวัด และผู้กำกับ ก็ไม่ได้หยุดสืบสวน เห็นความพยายามในการสืบสวน เพราะหลังจากนั้นก็มีการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และไปไล่กล้องวงจรปิด เพื่อหาพยานหลักฐานดำเนินคดีลุงเพิ่มเติม เมื่อไปหาพยานหลักฐานเพิ่มก็กลายเป็นว่าพบว่ากลุ่มวัยรุ่นทำร้ายป้าบัวผัน ซึ่งตำรวจพบหลักฐานนี้วันที่ 13 ม.ค. จากนั้นเลยทำเรื่องถึงศาลเพื่อขอให้ศาลปล่อยตัวลุง เพราะรู้แล้วว่าลุงไม่ผิด และในวันเดียวกันก็ไล่จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 และเยาวชนอีกคนมราก่อเหตุพ่อพาไปเที่ยวต่างจังหวัด พอรู้เรื่องก็นำมามอบตัวในวันที่ 14 ม.ค.
โดยลุงเปี๊ยก กับตำรวจพ่อผู้ก่อเหตุไม่ได้เจอกัน เพราะตำรวจพาลูกมามอบตัววันที่ 14 ม.ค. แต่ลุงเปี๊ยกได้รับการปล่อยตัววันที่ 15 ม.ค. หลังจากนั้น ตำรวจนำตัวมาสอบต่อ จากนั้นนายอำเภอได้ให้ตำรวจพาลุงไปส่งที่บ้านป้าซึ่งเป็นพี่สะใภ้ ประมาณช่วงค่ำ ดังนั้นหากตำรวจนำตัวลุงไปเก็บไว้ก็คงไม่ถึงบ้านในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างแน่นอน
หลังจากนี้ต้องขยายผลเรื่องเด็ก ใครเลี้ยงลูกเป็นอันธพาล เลี้ยงไม่ดีต้องรับกรรมไป ซึ่งเรื่องคดีดูแล้วไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีตำรวจไปเกี่ยวข้อง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะนักข่าวติดต่อผู้กำกับไม่ได้ จึงทำให้ไม่มีการตอบหรือชี้แจง จนเกิดการขยายความกันใหญ่
ส่วนตัวของลุงเปี๊ยกจากนี้จะนำตัวเข้าสู่การบำบัดสุราและจะให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาหรือไม่
หลังแถลงข่าว เสร็จสิ้น นักข่าวถามว่าลุงเปี๊ยกรักป้าบัวผันไหม เจ้าตัวตอบรัก นักข่าวจึงถามต่อว่าแล้วจะไปเคารพศพป้าไหม ลุงเปี๊ยกบอกว่าไม่ไป เพราะจะไปบำบัดเหล้ากับเจ้าหน้าที่ก่อน
นักข่าวพยายามสอบถามลุงเปี๊ยกอีกครั้งว่า มีใครบงการ หรือ ทำไมถึงไปรับสารภาพว่าก่อเหตุเอง แต่ลุงเปี๊ยกไม่ตอบคำถาม อ้างว่าเมา ปวดหัว ก่อนที่จะลุกแล้วรีบขึ้นรถกลับทันที