อดีต ส.ส.อนุรักษ์ ยื่นหนังสือร้องเรียนให้คณะกรรมการ ปปช. ไต่สวน เลขาปปช. พร้อมพวก ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานไต่สวนโดยมิชอบ
1 min read อดีต ส.ส.อนุรักษ์ ยื่นหนังสือร้องเรียนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวน เลขา ป.ป.ช. พร้อมพวก ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานไต่สวนโดยมิชอบ
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10:00 น ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. อดีต ส.ส.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ จะยื่นหนังสือร้องเรียนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ไต่สวน นายนิวัฒน์ไชย เกษมมงคล เลขา ป.ป.ช. กับพวก 10 คน
คนที่ 1 นายนิวัติไชย เกษมมงค ตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมมาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
คนที่ 2 นายจักรกฤช ตันเลิศ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานไต่สวนการทุจริตภาคการเมือง
คนที่ 3 นายจิรศักดิ์ พรพัฒนทรัพย์ ตำแหน่ง พนักงานไต่สวนระดับกลาง
คนที่ 4 นายพิทักษ์ ภัทราวุฒิชัย ตำแหน่ง พนักงานไต่สวนระดับกลาง
คนที่ 5 น.ส.มนธิดา วงษ์ถาวรเรือง ตำแหน่ง พนักงานไต่สวนระดับต้น
คนที่ 6 นายฤทธิเมศฐ์ สมานเกียรติสกุล ตำแหน่ง พนักงานไต่สวนระดับต้น
คนที่ 7 นายธรรมศักดิ์ หนูสุก ตำแหน่ง พนักงานไต่สวนระดับต้น
คนที่ 8 นายธีรภัทร ภูมี ตำแหน่ง นิติกรณ์ปฎิบัติการ
คนที่ 9 นายมงคล วุตนิมิต ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง
คนที่ 10 นายอภิวัฒน์ พินิจสกุล ตำแหน่ง พนักงานเจ้าหน้าที่
ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานไต่สวนโดยมิชอบ จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องร้องเรียนว่ามีการตบทรัพย์นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 5 ล้าน โดยนายนิวัฒน์ไชยฯ ใช้อำนาจไต่สวนโดยพลการ เพราะคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่มีคำสั่งมอบหมายให้ดำเนินการตาม พรบ.ว่าด้วยรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 50 วรรค 1 ซึ่งเป็นขั้นตอนที่พนักงานไต่สวนเบื้องต้นจะต้องได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียก่อน เพราะการไต่สวนเบื้องต้นถือเป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญและจะมีผลต่อการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งจะต้องรวบรวมไว้ในรายงานการไต่สวนเบื้องต้นเพื่อผู้ถูกกล่าวหาสามารถตรวจสอบการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ โดยไม่เป็นภาระแก่บุคคลเกินสมควรแก่เหตุ
สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบและการกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน เป็นองค์กรที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีและทุกคนในองค์กรควรจะมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์มีความเที่ยงธรรมในการปฎิบัติหน้าที่และต้องมีธรรมาภิในองค์กร
ในกรณีที่ อดีต ส.ส.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการไต่สวนผู้ใต้บังคับบัญชาที่บกพร่องอย่างร้ายแรงต่อหน้าที่เพราะการกระทำดังกล่าวมีหลักฐานเอกสารในสำนวนชัดเจน อีกทั้งยังเป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากอดีต ส.ส.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ จึงขอให้คณะกรรมการป.ป.ช.ตั้งกรรมการการไต่สวนโดยเร็วและในการไต่สวนนายนิวัติไชย เกษมมงคล ซึ่งมีตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ที่เป็นตำแหน่งสูงสุดในฝ่ายพนักงานของเจ้าหน้าที่กับพวก 10 คน แต่ละคนมีตำแหน่งระดับสูงซึ่ง เป็นที่ยำเกรงในองค์กรอันอาจใช้อิทธิพลที่เป็นผู้บังคับบัญชาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในสำนวน ฉะนั้นเพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายจึงขอให้คณะกรรมการป.ป.ช.มีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทั้ง 10 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าผลการไต่สวนจะแล้วเสร็จ ซึ่งอดีต ส.ส.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปคณะกรรมการกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนทุกแขนงแล้วด้วยแล้วโดยอดีต ส.ส.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ จะทำหนังสือติดตามเรื่องนี้ทุกวันจันทร์จนกว่าการไตสวนจะแล้วเสร็จ