อดีต “สส.ก้าวไกล” พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เตรียมสั่งรื้อร้านค้ากว่า 20 รุกล้ำที่สาธารณะ มีการเรียกเก็บผลประโยชน์
1 min read เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ก.พ. 67 นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.พรรคก้าวไกล เขต 8 จ.นนทบุรี ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จังหวัดนนทบุรี นายสิทธิชัย สารภรม หัวหน้าหมวดทางหลวงบางบัวทอง นายอัฐพล อินต้ะพรม ตัวแทนแขวงทางหลวงชนบท นายพิทักษ์ อยู่สุข หรือกำนันแรม กำนันตำบลบางรักพัฒนา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางบัวทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณริมถนนหน้าปากทางเข้าซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ เพื่อทำกินค้าขาย ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงมีการเรียกรับผลประโยชน์เก็บรายเดือน จำนวนเดือนละ 6,000 บาท พร้อมเตรียมบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ทางหลวงมาตรา 38 และมาตรา 47 อย่างเร่งด่วนโดยทำหนังสือแจ้งเตือน ก่อนกำเนินการสั่งรื้อถอน
นายนนท์ สส.พรรคก้าวไกล เขต 8 จ.นนทบุรี กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ วันนี้จึงมาลงพื้นที่พร้อมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ แขวงทางหลวงชนบท แขวงการทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนันและเทศบาลเมืองบางบัวทอง วันนี้ตนจึงลงมาพิสูจน์ว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นของใคร ซึ่งวันนี้ก็นำโฉนดมาตรวจสอบดู หลังจากมีการสร้างห้างสรรพสินค้าดังหน้าปากทางเข้าซอยวัดลาดปลาดุก จากการตรวจสอบโฉนดที่ดินเบื้องต้นพบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของราชการตั้งแต่แนวรั้วเป็นต้นมา วันนี้ตนจึงจะมาพูดคุยกับคนที่อ้างเป็นเจ้าของที่ ที่มาสร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณดังกล่าวว่าจะดำเนินการยังไงต่อ
นายนนท์ สส.พรรคก้าวไกล เขต 8 จ.นนทบุรี กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบดูมีร้านค้าเกือบ 10-20 ร้าน พบว่ามีร้านค้าทำสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยปูน จำนวน 2 ร้าน ทางหน่วยงานแขวงทางหลวงชนบท และแขวงการทางเคยมาพูดคุยแล้วแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ รวมถึงตำรวจและเทศกิจก็เคยมาลงพื้นที่แต่กลับถูกด่าทอ วันนี้ตนจึงลงมาตรวจสอบและเป็นตัวกลางในการพูดคุยเจรจา ซึ่งบริเวณปากซอยวัดลาดปลาดุกจุดนี้ ช่วงเย็นจะมีการจราจรที่ติดขัดมาก ยาวไปจนถึงถนนฝั่งตรงข้าม เพราะมีการจอดรถซื้อของบริเวณปากซอย ซึ่งตามหลักก็ไม่ควรอยู่แล้ว หลังจากวันนี้ที่ตนลงพื้นที่มาตรวจสอบก็พบแล้วว่าบริเวณปากซอยเป็นเขตรับผิดชอบของแขวงทางหลวงชนบท ก็จะมอบเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป รวมถึงตนได้รับข้อมูลมาว่าในการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะนี้มีการเรียกรับผลประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำสิ่งปลูกสร้างแล้วค้าขาย โดยมีการปล่อยให้เช่าเดือนละ 6,000 บาท แต่ส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ ตนได้ตรวจสอบมาแล้ว
นายอัฐพล อินต้ะพรม ตัวแทนแขวงทางหลวงชนบท กล่าวว่า ในส่วนของแขวงทางหลวงชนบท ตนก็จะดำเนินการตามข้อกฎหมายมาตรา 38 ห้ามตั้งแขวงวางกองในเขตทางหลวง และมาตรา 47 ห้ามสร้างอาคารในเขตทางหลวง ก่อนหน้านี้ทางแขวงทางหลวงชนบท และทางหลวง ได้เคยเข้ามาพูดคุยและตรวจสอบบริเวณดังกล่าวแล้วแต่ว่าจะต้องพิสูจน์ทราบให้ชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของหน่วยงานไหนที่รับผิดชอบ เพราะพื้นที่ตรงนี้จะเป็นที่ซับซ้อน ไม่มีการหักแบ่งรังวัดให้ชัดเจน ซึ่งในวันนี้ก็ได้ลงมาตรวจสอบอีกครั้งพบว่าหลังจากที่ทางห้างสรรพสินค้าดังได้สร้างขึ้นมา การหักแบ่งรังวัดนี้ค่อนข้างที่จะชัดเจนแล้วเป็นของทางแขวงทางหลวงชนบท จึงต้องเข้ามาพูดคุยกับทางเจ้าของร้านแล้วจะดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่เส้นวัดลาดปลาดุก ประชากรหรือประชาชนที่อาศัยอยู่ยาวนานก็มาเหมือนจับจองที่ เพราะที่ของทางหลวงชนบทจะเป็นที่ที่ไม่ได้เวนคืนเพราะเราได้มาจากการอุทิศ และเขตทางไม่ชัดเจน จึงมีการกระทบกระทั่งกับชาวบ้านบ้างในการตรวจสอบเขตที่ดิน ในวันนี้ตนก็จะดำเนินการตามมาตรการ พ.ร.บ.ทางหลวง ให้สิ่งปลูกสร้างนั้นได้พ่นเขตทางเท้าก่อนเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนมาตรการในการดำเนินการขั้นตอนแรกก็จะทำการออกหมายแจ้งเตือนให้ชาวบ้านทราบถึงพ.ร.บ.ทางหลวงก่อน โดยให้เวลา 15 วัน ก่อนจะดำเนินการสั่งรื้อถอนต่อไป
ด้านนายสิทธิชัย สารภรม หัวหน้าหมวดทางหลวงบางบัวทอง กล่าวว่า ในส่วนของทางหลวงของตน พื้นที่ที่รับผิดชอบก็จะเป็นบริเวณถนนกาญจนาภิเษก บริเวณปากทางเข้าซอยวัดลาดปลาดุก ซึ่งในกรณีนี้ตนเคยลงพื้นที่มาดูและสอบถามผู้ที่ครอบครองที่ดินดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือกับเขา ตนจึงรวบรวมข้อมูล และรับฟังไว้ก่อน เพราะเขาอยู่มาก่อนตนจึงเอาข้อมูลมาประมวลอีก
ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ นายเอ (นามสมมุติ) และนางบี (นามสมมุติ) ได้เข้ามาพูดคุยพร้อมนำทะเบียนบ้านเลขที่แสดงตนว่าเป็นเจ้าของที่ มาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมกล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ตนได้อาศัยมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่รุ่นย่ารุ่นปู่ ยืนยันว่ามีโฉนดที่ดิน ใบอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีการร้องเรียนในเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่พอนายทุนมาก่อสร้างห้างดังกลับกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่รีบลงมาตรวจสอบ ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติหรือไม่ มันไม่ยุติธรรมสำหรับตน ซึ่งขณะตอนที่ทางห้างกำลังสร้าง เทปูน น้ำปูนไหลมาที่บ้านตนจนตนเป็นโรคผื่นคันไม่มีมาดูแลรับผิดชอบแต่อย่างใด แต่ตอนนี้พอมีนายทุนก็เอาหน่วยงานมาลงเต็มไปหมด จะมาเอาพื้นที่ตนที่ทำมาหากินมาตั้งนาน ซึ่งทะเบียนบ้านตนไปขอรับมาจากท่านนายกเทศบาล ยืนยันว่าเป็นเอกสารจริง ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ วันนี้ทางหน่วยงานมาลงตรวจสอบที่ตน หากไม่เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อเอื้อนายทุน ก็ควรจะตรวจสอบทุกพื้นที่ภายในซอยวัดลาดปลาดุก ไม่ใช่มาตรวจสอบแค่พื้นที่ของตน ซึ่งในจังหวัดนนทบุรีนั้นมีซอยวัดลาดปลาดุกที่เดียวที่ไม่มีการเวนคืนที่ดิน สุดท้ายนี้ตนก็ยินยอมให้ตรวจสอบ หากจะเวนที่ดินคืนก็อยากให้แจ้งด้วยว่าเอาไปทำอะไร และจ่ายเงินค่าเวนที่ดินให้ตน เดี๋ยวตนจะไปแจ้งความว่าทางหลวงปักป้ายบุกรุกที่ดินของตน
Loading…