เต้ “มงคลกิตติ์” ตรวจเยี่ยมศูนย์ CI ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนแรงงานต่างด้าวถูกเรียกเงินในการต่อเล่มเขียว

มงคลกิตติ์เดินทาง ขอทราบข้อมูลสัญญาเช่าที่ทำการและร่วมตรวจเยี่ยม ศูนย์ การออกเอกสารรับรองบุคคล ของทางการเมียนมา จังหวัดชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนแรงงานเมียนมา ถูกเรียกเงินในการต่อเล่มเขียวเพิ่ม ในช่วงภาวะจำยอม จากประเทศทำสงคราม

วันนี้ 18 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น.พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-หัวหน้าพรรค , นางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-เลขาธิการพรรค, นายนักบุญ อรรคบุตร ผอ.ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ, นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิต นายทะเบียนพรรค ,นางสาวกฤษยากร สรชัย กรรมการบริหารพรรค พร้อมทีมงานได้เดินทางขอทราบข้อมูลสัญญาเช่าที่ทำการและร่วมตรวจเยี่ยม ศูนย์ การออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity : CI) ของทางการเมียนมา จังหวัดชลบุรี ณ ด้านหลังตลาดสยามนินจา(โป้งตามุข) เลขที่ 116 หมู่ที่ 1 ตำบล หนองหงส์ อำเภอ พานทอง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับร้องเรียนจาก นายหน้าบริษัทเอกชนนำเข้าแรงงานเมียนมา เข้ามาทำงานในประเทศไทย และ นำแรงงานเมียนมามาเข้าศูนย์ CI ซึ่งปัจจุบัน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และ ทางการเมียนมา ได้ร่วมเปิด ศูนย์ การออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity : CI) จากการตรวจสอบ พบว่ามีการเก็บค่าธรรมเนียมที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ 1.การต่อวีซ่าค่าธรรมเนียมเหลือครั้งละ 500 บาท สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา เก็บโดย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2.ภาษีทางการเมียนมา 750 บาท/คน 3.ค่าบริการศูนย์ การออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity : CI) ของทางการเมียนมา จำนวน 700 บาท/คน 4.ค่าบริการร้านสะดวกซื้อ 7-11 จำนวน 10 บาท/คน 5.ค่าบริการ นายหน้า จาก บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ ประมาณ 1,000 บาท/คน ออกใบเสร็จรวมเป็นเงิน 2,960 บาท แล้วยังพบว่าอาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ 1.ค่าหัวคิวฝ่ายเมียนมา 630 บาท/คน(ถ้าไม่จ่าย ไม่มีคิว) 2.ค่าหัวคิวฝ่ายนักการเมืองไทย 1,100 บาท/คน(ถ้าไม่จ่าย ไม่มีคิว) 3.ค่าหัวคิว เจ้าหน้าที่ ตม.บางคน 600 บาท/คน(ถ้าไม่จ่าย ไม่ต่อวีซ่า) 4.ค่าหัวคิว เจ้าของ ศูนย์ ชื่อ เฮง-ซวย พร้อมพวก 400-500 บาท/คน(ถ้าไม่จ่าย ไม่มีคิว) รวมเป็นเงิน 2,830 บาท/คน

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า จากมติ ครม.วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เห็นชอบให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานไปพลางก่อนได้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 โดยให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวภายในวันดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมียอดลงทะเบียนประมาณ 850,000 คน จะเห็นได้ว่าอาจมียอดรายจ่ายส่วนเกินกว่า 2,405.5 ล้านบาท/ปี ซึ่งเป็นเงินที่มาจากการทุจริต รีดเลือดกับแรงงานเมียนมา ในช่วงที่ทางประเทศเมียนมา มีการทำสงครามกับชาวกระเหรี่ยง ทำให้แรงงานเมียนมา ไม่อยากกลับบ้าน ต้องยอมจ่ายเงินตามจำนวนที่เรียก ในภาวะจำยอม และ การข่าวเชิงลึกทราบว่ามีกลุ่มบุคคลเข้าดำเนินการเรียกค่าบริหารจัดการนอกระบบ ใน ศูนย์ CI จังหวัดชลบุรี โดยไม่มีการประมูลจาก กรมการจัดหางาน ชื่อว่า เฮง-ซวย พร้อมทีมงาน ถ้ามีจริงถือว่าผิดกฏหมายหลายฉบับ ปัจจุบันมีนายหน้าชาวเมียนม่า มาจัดคิวและขายคิวหน้าศูนย์ CI จังหวัดชลบุรี 3,300-3,600 บาท/คน ซึ่งไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย การกำหนดงานในอาชีพ และวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดในอาชีพและวีชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 ลำดับ 28 งานนายหน้า หรืองานตัวแทน ยกเว้น งานนายหน้าหรืองานตัวแทนในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โทษของการทำอาชีพผิดกฎหมายในไทยลูกจ้าง โทษปรับ 5,000-50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง นายจ้าง โทษปรับ 10,000-100,000 บาท/การจ้างคนต่างด้าวหนึ่งคน ทำผิดซ้ำ โทษปรับ 50,000-200,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี และขึ้นบัญชีห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวอีก 3 ปี