ศุลกากรภาคที่ 2 ลุยตรวจค้นจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้ากว่า 5,305 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
1 min read อุบลราชธานี/ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ตามนโยบายของนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และ นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องประชาชนและเยาวชนที่อาจได้รับสารพิษจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้สั่งการให้นางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 และนายชนินทร์ ศุภรินทร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร วางแผนร่วมกัน
โดยมอบหมายให้ นายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับด่านศุลกากรช่องเม็ก และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.2 สปป.1 กสป. วางแผนตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย จำนวน 2 แห่งในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเชื่อว่าภายในมีการลักลอบเก็บและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก โดยผลการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 5,305 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง “กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557” และเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าหรือส่งออก ตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทีมข่าวเฉพาะกิจรายงาน
Loading…