รวบแล้ว พีอาร์สาว ปลอมผลตรวจโควิด ฉ้อโกงประกันภัย เสียหายกว่า 100,000 บาท
1 min readกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สมชาย ศรพล รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.จำนาญ จันทร์เทศ รอง ผกก.4 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม นางสาวนภัสนันท์ฯ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 717/2566 ลง วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารและร่วมกันใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันเรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้อง”
สถานที่จับกุม บริเวณ ซอยเอกชัย 35 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. กรณีถูกผู้ต้องหาใช้เอกสารการรับรองผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) และเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอม มาใช้ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ทุนประกัน จำนวน 100,000 บาท
จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า น.ส.นภัมนันท์ฯ ผู้กระทำความผิด มีเจตนาที่จะฉ้อโกงบริษัทประกันภัย โดยได้ปลอมเอกสารรับรองผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ของคลินิกแห่งหนึ่ง และปลอมเอกสารใบรับรองแพทย์ เพื่อรับเงินค่าสินไหมทดแทน ซึ่งพบลักษณะการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยสำแดงว่าตนติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในช่วงเวลาที่มีการระบาดของโรค ซึ่งถือเป็นการฉกฉวยเอาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้บริษัทประกันภัยได้รับความเสียหาย จำนวน 100,000 บาท อีกทั้ง น.ส.นภัสนันท์ฯ ยังมีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา
จนกระทั่งวันที่ 21 มี.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนทราบว่า น.ส.นภัสนันท์ฯ หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บ้านเช่า ภายในซอยเอกชัย 35 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ทางผู้ต้องหาให้การยอมรับว่ามีคนรู้จักแนะนำให้ทำกรมธรรม์ประกันภัยกับบริษัทแห่งนี้ โดยคนรู้จักจะช่วยจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ให้ ซึ่งเมื่อตนนำเอกสารปลอมไปเคลมประกันภัยได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนแล้ว จะนำเงินมาแบ่งผลประโยชน์กัน
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป