สาวร้อง “เพจสายไหมต้องรอด” ถูกเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ขว้างปาสิ่งของและสิ่งปฏิกูลเข้าบ้านเป็นประจำ

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ รับเรื่องราวร้องทุกข์จากหญิงสาวรายหนึ่ง ในพื้นที่ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4-2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ถูกเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ขว้างปาสิ่งของและสิ่งปฏิกูลเข้าบ้านเป็นประจำ ตั้งแต่การสาดน้ำ โยนวัตถุของแข็งบางอย่าง ไปจนถึงถุงพลาสติกก็ยังโยนทิ้งใส่บ้านหลังนี้ ซึ่งเจ้าของบ้านเกิดความเดือดร้อนและทนมาเกือบปี ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

โดยคุณปราง อายุ 26 ปี และแฟนหนุ่มเจ้าของบ้านหลังนี้ เปิดเผยว่า ตนอยู่บ้านหลังนี้มานานกว่า 30 ปี ส่วนฝั่งลุงผู้ก่อเหตุเพิ่งมาก่อสร้างอาศัยบ้านอยู่ข้าง ๆ ได้ 10 กว่าปี ประมาณปี 2557 ซึ่งตอนที่ฝั่งผู้ก่อเหตุกำลังสร้างบ้าน เกิดเหตุการณ์ปูนกระเด็นใส่บ้านของตน ตอนนั้นได้มีการพูดคุยเจรจาและตกลงค่าเสียหายกัน 600 บาทเป็นที่เรียบร้อย แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุเหมือนยังไม่จบ เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ฝั่งผู้ก่อเหตุมักจะมาก่อกวนสร้างความรำคาญที่บ้านอยู่ตลอด ทั้งการนำปัสสาวะมาเทหน้าบ้าน // เอาข้าวมาละเลงที่รถ // ไปจนถึงเคยถือมีดบุกเข้ามาในบ้าน แต่ครั้งนั้นอ้างว่ามาเพื่อดายหญ้าเฉย ๆ ซึ่งทางบ้านก็อดทนกับเหตุการณ์นี้มาโดยตลอด เพราะมองว่าต่างคนต่างอยู่

ปรากฎว่า 2 ปีที่ผ่านมา ตนและคนในบ้านเริ่มเห็นว่า ฝั่งลุงผู้ก่อเหตุได้มีการปาขยะ สาดน้ำ ถีบถังขยะหน้าบ้าน และโยนของไม่ใช้ใส่บ้านของตน จนที่บ้านต้องไปพูดคุยกับลุงคนนี้หลายครั้ง แต่ลุงคนนี้กลับไม่ยอมพูดคุยได้ อ้างปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ และยังมีการพูดจาต่อว่าด่าทอแบบไร้เหตุผล ก่อนหน้านี้จึงได้มีการแจ้งความ กับตำรวจ สน.คันนายาว และเคยให้สายตรวจมาช่วยพูดคุย แต่ลุงคนนี้ก็ปฏิเสธ ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ อ้างว่าไม่ได้ทำ เลยทำให้ ตนบอกกับคุณลุงไปว่า หลังจากนี้จะดำเนินการติดกล้องวงจรปิด ซึ่งคุณลุงก็รับทราบ แต่ก็ยังปาขยะใส่ตามภาพวงจรปิดเรื่อย ๆ

เมื่อวานนี้ ตนจึงตัดสินใจแจ้งความตำรวจ สน.คันนายาว อีกครั้ง เพราะถูกคุณลุงผู้ก่อเหตุท้าทายให้แจ้งความเอาหมายเรียกมาเรียกลุง พร้อมกับนำภาพกล้องวงจรปิดไปแจ้งความ แต่ตำรวจระบุว่า ฝั่งลุงผู้เสียหายไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ และไม่ให้ชื่อ จึงไม่สามารถออกหมายเรียกได้ ตนจึงอยากร้องเรียนสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาและให้ลุงคนนี้ออกมาคุยตรง ๆ กับตนว่าเกิดอะไรขึ้น มีปัญหาข้องใจใด ๆ ถึงก่อเหตุแบบนี้

ทั้งคู่ระบุอีกว่า บ้านฝั่งผู้ก่อเหตุอยู่กันประมาณ 4 คน แต่เหมือนไม่ได้มีการห้ามปรามใด ๆ กับลุงคนนี้ ซึ่งกังวลกลัวว่า หลังจากนี้อาจจะเกิดความอันตรายรุนแรงมากยิ่งขึ้น หากไม่ดำเนินการจัดการกับเพื่อนบ้านคนนี้

ด้านนายเอกภพระบุว่า เป็นปัญหาทุกข์ใจเรื่องเพื่อนบ้าน ถือว่าผิดกฎหมายเรื่องความเดือดร้อนรำคาญและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนจะแจ้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางเขนให้ดำเนินการจัดการ ส่วนเรื่องความเดือดร้อนรำคาญ ตนว่าตำรวจมีอำนาจออกหมายค้นจัดการได้ทันที ไม่ต้องรอใด ๆ