คนเมืองชลทุบโต๊ะ! ไม่เห็นด้วยเลือกตั้ง สจ.เขต 5 ศรีราชา ชลบุรี หลังสจ.จากพรรคก้าวไกล ลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนที่ตนเอง

คนเมืองชลทุบโต๊ะ! ไม่เห็นด้วยเลือกตั้ง สจ.เขต 5 ศรีราชา ชลบุรี หลังสจ.จากพรรคก้าวไกล ลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนที่ตนเอง ทั้งที่เหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือน หวังปูทางให้ผู้สมัครชิงเก้าอี้ อบจ.ชลบุรี มีคุณสมบัติครบตามกฎหมาย แต่รัฐกลับต้องเสียงบประมาณกว่า 3 ล้านบาท เท่ากับงบจ้างครูโรงเรียนให้เด็กถึง 20 คน
.
พื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กำลังจะมีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีใหม่ ในเขต5 ของ อ.ศรีราชา แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้เกิดคำถามจากคนในพื้นที่อย่างมาก เนื่องด้วยระยะเวลาที่เหลืออีกเพียง 2 เดือนจะเข้าเงื่อนไขครบ 180 วัน ตามกฎหมายไม่ต้องเลือกตั้งใหม่แล้ว อีกทั้งวาระของ สภา อบจ.ชลบุรีชุดนี้จะหมดลงกลางเดือนธันวาคม 2567 ปลายปีนี้เอง
.
สังคมตั้งคำถามว่า ในการจัดเลือกตั้ง ส.อบจ.ชลบุรี แทนตำแหน่งที่ลาออกนี้ มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ ด้วยผลลัพธ์จากการลาออก ของ อดีต ส.อบจ.ชลบุรีเขต5 ของ นายรุจิภาส ทรัพยา จากคณะก้าวหน้า ในห้วงเวลานี้ และการจัดเลือกตั้งใหม่ที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน 3 ล้านบาทนั้น คุ้มค่ากับการได้ ส.อบจ.ใหม่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้เพียงไม่กี่เดือนหรือไม่
.
“ถ้าพิจารณากันแล้ว งบประมาณแผ่นดินมูลค่า 3 ล้านบาท สามารถจัดสรรเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ ห้องพัก เตียงผู้ป่วยได้จำนวนมาก หากเป็นโรงเรียนแล้ว สามารถใช้งบประมาณก้อนนี้ไปจ้างครูได้ถึง 20 คน ต่อปี หรือห้องเรียนคอมพิวเตอร์ได้ถึง 2 ห้องเรียนอย่างดีมีคุณภาพ ที่จะไปจัดการเรียนการสอนกับเด็กๆลูกหลานเราได้ หรือ หากนำไปซื้อ เครื่องกระตุ้นหัวใจ AED เพื่อส่งต่อให้ชุมชนต่างๆ ก็ได้ถึง 60 ชุมชนเลยทีเดียว 
.
“ล่าสุดประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้าน และแกนนำชุมชนจำนวนมาก ได้เกิดการตั้งคำถามกลับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหมาะสมหรือไม่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นอย่างนี้ การลาออกของสจ.เขต 5 ของอ.ศรีราชา พรรคก้าวไกล ทำไปเพื่ออะไร มีความสมเหตุสมผล อธิบายต่อสังคมได้หรือไม่ ว่าทำไมถึงต้องมาลาออกในเวลานี้”
.
ทั้งนี้ หลังจากการลาออกของ นายรุจิภาส แล้ว ก็มีการเปิดรับ ผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.อบจ.ชลบุรีในเขต 5 ดังกล่าว ปรากฎว่ามีผู้สมัคร 2 ราย ได้แก่ นายมนตรี แสนเวียงจันทร์ ผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้า และ นายพิสิษฐ์ ประเสริฐพงษ์ ผู้สมัครในนามกลุ่ม เรารักชลบุรี
.
ในการเดินหาเสียงพื้นที่ มีการขึ้นป้ายหาเสียงเป็นรูปคู่ ของอดีต ส.อบจ. คือนายรุจิภาส ที่เพิ่งลาออกไป กับ นายมนตรี คู่กัน พร้อมกับเดินช่วยกันหาเสียงโดยตลอด อาจด้วยเป็นเพราะนายมนตรีไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ เขต 5 ศรีราชา และพื้นเพไม่ได้อยู่ชลบุรีมาตั้งแต่เกิด 
.
ส่วนทางด้านนายพิสิษฐ์ ผู้สมัครอีกรายจากกลุ่มเรารักชลบุรี มีอาชีพประกอบธุรกิจ และเคยลงสมัครผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาก่อน มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า นายมนตรี แสนเวียงจันทร์ ผู้สมัครในนามกลุ่มก้าวหน้านี้ มีอาชีพเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาศัยอยู่ในเขตอำเภอพานทอง อีกฝากหนึ่งของเมืองชลบุรี และมีราชื่อจะไปเป็นแคนดิเดตลงชิงนายก.อบจ.ชลบุรี ในนามพรรคก้าวไกล แต่เนื่องจาก นายมนตรีมีวุฒิการศึกษาสูงสุด คือ มัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งคุณสมบัติผู้สมัคร นายก อบจ. ตาม พรบ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดปี 2540 กำหนดไว้ว่า ผู้สมัครต้องมีวุฒิขั้นต่ำต้องจบปริญญาตรี  หรือ จะต้องเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา มาก่อน จึงจะมีคุณสมบัติสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.ชลบุรี ได้