รวบหนุ่มนักธุรกิจพกลูกซองค่าด่านตรวจ เจ้าตัวยัน มีใบอนุญาต แต่ลืมพกมาด้วย
1 min readตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกูล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปฎิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วิชัย โมฆรัตน์ สว.ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจส.ทล.2 กก.7 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม นายไกรวิทย์ อายุ 29 ปี โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกซอง ขนาด 12 มม. ยี่ห้อ DERRY MK 12 จำนวน 1 กระบอก
2. ซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 อัน
3. เครื่องกระสุนปืนยาวขนาด 12 มม. รวมจำนวน 18 นัด
สถานที่จับกุม ทางหลวง 4 กม.1152 -1153 ม.10 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล. ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณถนนทางหลวงทางหลวง 4 กม.1152 -1153 ม.10 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งต่อมาได้มีพบรถยนต์เก๋งทะเบียน จ.ตรัง ขับขี่มาในลักษณะมีพิรุธ น่าเชื่อว่าอาจจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถและแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในรถพบเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 9 นัด อยู่บริเวณช่องเก็บของด้านหน้าที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับ และพบอาวุธปืนยาวลูกซองจำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยซองบรรจุกระสุนซึ่งบรรจุกระสุนอยู่จำนวน 9 นัด อยู่บริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังคนขับตรงใต้เบาะที่นั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เเจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าอาวุธปืนลูกซองและเครื่องกระสุนที่ตรวจค้นพบเป็นของตนเองจริง โดยผู้ต้องหานำออกมาจากบ้านที่ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และจะเดินทางไปทำงานที่บริษัทขนส่งโลจิสติก ในพื้นที่ อ.สุไหโกลก จ.นราธิวาส โดยผู้ต้องหายืนยันว่าตนเองมีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนดังกล่าว แต่ไม่ได้พกติดตัวมาด้วย จึงไม่สามารถนำมาแสดงให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้