“สายไหมต้องรอด” นําพ่อแม่การ์ดร้านอาหารย่านเกษตรนวมินทร์ ทวงความเป็นธรรม หลังติดใจการเสียชีวิต เชื่อไม่ใช่ปืนลั่น
1 min read
วันนี้(21 มิ.ย. 67) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาพ่อแม่และป้าของ นายณัฐพล อายุ 23 ปี การ์ดร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งย่านเกษตรนวมินทร์ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.โคกคราม เพื่อติดตามความคืบหน้าและทวงความเป็นธรรมหลังเจ้าของร้านอ้างทําปืนลั่นใส่จนเสียชีวิต
นายวารินทร์ พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายต้องมาจากไปแบบนี้ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุอายุก็เยอะแล้วน่าจะสั่งสอนเด็กดีๆ ซึ่งตนอยากให้ลูกได้รับความเป็นธรรม เพราะส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายไม่มีปืนตามที่ผู้ก่อเหตุอ้าง ส่วนเรื่องปัญหาการทํางาน เท่าที่ทราบลูกชายไม่เคยเล่าให้ฟัง ส่วนศพของลูกชายตอนนนี้ยังไม่เห็น จึงไม่รู้ว่าเสียชีวิตวันไหนและเวลาใดกันแน่ ซึ่งตอนนี้เหมือนผู้ก่อเหตุให้การอยู่ฝ่ายเดียว อีกทั้งตอนมาแจ้งความตนได้ทักท้วงกับเจ้าหน้าที่ตํารวจว่าไม่เชื่อลูกจะเสียชีวิตเพราะปืนลั่น แต่ตํารวจกลับตะคอกใส่กลับมาว่า “อย่ารู้มาก“ ยิ่งทําให้รู้สึกเสียใจทั้งที่ตนเป็นฝ่ายสูญเสียแต่ตํารวจกลับมาแสดงพฤติกรรมเช่นนี้
ด้าน นางรจนา แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งนํ้าตาว่า ตนเป็นคนพาลูกชายไปฝากให้กับนายจ้างคนดังกล่าวทํางานเกี่ยวกับการอ็อกเชื่อมและเพิ่งรู้ว่าลูกได้มาทํางานเป็นการด์ที่ร้าน ซึ่งลูกทํางานได้ไม่ถึงเดือนกลับต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ยืนยันลูกไม่ใช่คนเกเรและเคารพผู้ใหญ่เสมออีกอย่างลูกยังเป็นคนสมองช้าอีกด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าเขาหมั่นไส้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่ โดยการที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าทําปืนลั่นใส่ลูกชายนั้น เหตุใดจึงไม่มีรอยถากถูกแขนหรือขาแต่กระสุนกลับเจาะเข้าที่บริเวณศีรษะ หากไม่เรียกจงใจฆ่าแล้วจะให้เรียกว่าอะไร นอกจากนี้ตนและครอบครัวยังติดใจหลายประเด็นทั้งวันเวลาที่เสียชีวิต เนื่องจากปกติลูกจะโทรมาขอเงินทุกวันเพราะเงินยังไม่ออก แต่ลูกเงียบหายไปตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมากระทั่งเกิดเรื่อง รวมถึงยังเรื่องของกล้องวงจรปิดที่เขาอ้างว่าเสียประมาณ 1-2 วัน ซึ่งทําให้เกิดข้อสงสัยเป็นอย่างมาก
ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่กล้องวงจรปิดจะบังเอิญมาเสียในช่วงที่เกิดเหตุและสองคือการที่ผู้ก่อเหตุนําอาวุธปืนไปทิ้งทั้งที่บอกว่าเป็นการทําปืนลั่น อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดถือเป็นหลักฐานสําคัญที่จะช่วยคลี่คล้ายคดีนี้
นอกจากนี้ทาง พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานต่างๆทั้งคราบเขม่าดินปืนที่มือผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุล่าสุดเจ้าหน้าที่พบแล้วเหลือเพียงเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่ผู้ต้องหาถอดออกนําไปทิ้งแต่ยังไม่บอกว่านําไปทิ้งที่ไหน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต“ ก่อนส่งฝากขังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพร้อมคัดค้านการประกันตัว พร้อมกับให้ความมั่นใจว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนเรื่องของการเปิดร้านอาหารดังกล่าวนั้น ทาง พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม ระบุว่า จากการตรวจสอบพบเป็นร้านอาหารที่ขออนุญาตเปิดถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจะมีการลักลอบเปิดเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกําหนดหรือไม่นั้นจะดําเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป